แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เรือที่ใช้บรรทุกของหนีภาษีเป็นของผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นในการหนีภาษีด้วยนั้นจะรีบไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยนำเรือระวาง ๔๓.๒๐ ตันบรรทุกของหนีภาษีเข้ามาในพระราชอาณาจักร์เป็นผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร ให้ลงโทษและริบเรือของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ และผู้ร้องได้ยื่นคำร้องว่าเรือนั้นจำเลยเช่าของผู้ร้องไป ผู้ร้องไม่เห็นด้วยกับการทำผิด ขอให้คืนเรือให้ผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยยืนตามศาลชั้นต้น แต่เรือให้คืนผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ มาตรา ๓๒ ศาลจะริบได้ต่อเมื่อเป็นทรัพย์ของผู้กระทำผิด สวนพ.ร.บ.ศุลกากร(ฉะบับที่ ๙)พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๑๗ ซึ่งบัญญัติว่าของอันเนื่องจากมาตรา ๒๗ ให้ริบเสียนั้นโดยไม่ต้องคำนึงว่าบุคคลใดจะต้องรับโทษหรือไม่นั้น หมายถึงของที่ต้องเสียภาษี มิใช่ของที่ใช้ในการขนของที่จะต้องเสียภาษี จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์