แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ครอบครองเคหะสถานอยู่เพียงชั่วคราว แม้จะไม่ใช่เจ้าของเคหะสถานนั้น ก็ย่อมอยู่ในฐานะที่จะร้องทุกข์เอาผิดแก่ผู้มาบุกรุกได้ ในฟ้องระบุว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในกุฎิอันเป็นเคหะสถานที่อาศัยของเจ้าทุกข์ดังนี้ แสดงว่าเจ้าทุกข์เป็นผู้เสียหายแล้ว
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในกุฎิอันเป็นเคหะสถานที่อาศัยของนางสาวสุดใจโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้กำลังกอดปล้ำกระทำอนาจารนางสาวสุดใจ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๖,๓๒๙
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยผิดฐานอนาจารจริง แต่เรื่องบุกรุกนั้นไม่ได้ความว่ากุฏินั้นใครเป็นเจ้าของ นางสาวสุดใจเป็นแต่เพียงไปพักอาศัย ไม่ใช่เจ้าของหรือผู้ครอบครองกุฏิ จึงไม่อยู่ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์หรือฟ้องร้องในความผิดฐานบุกรุกได้ จะลงโทษจำเลยฐานนี้ยังไม่ได้ จึงพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลยแต่ตามมาตรา ๒๔๖
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์ก็ได้บรรยายว่าจำเลยบังอาจบุกรุกเข้าไปในกุฏิอันเป็นเคหะสถานที่อาศัยของนางสาวสุดใจ และทางพิจารณาได้ความว่านางสาวสุดใจพักอาศัยอยู่ที่กุฎินี้มานานราว ๖ เดือนแล้ว เป็นอันฟังได้ว่าขณะเกิดเหตุนางสาวสุดใจเป็นผู้ครอบครองชั่วคราวซึ่งกุฏิที่เกิดเหตุอันเป็นที่อาศัยคือเป็นเคหะสถานและได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยบุกรุกเข้าไปกระทำอนาจาร จึงอยู่ในฐานะที่จะร้องทุกข์เอาผิดแก่จำเลยฐานบุกรุกได้ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ยื่นตามศาลชั้นต้น