คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนเกิดเหตุจำเลยอยู่ในกลุ่มของพวกที่ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และขณะเกิดเหตุจำเลยนั่งอยู่กับพวกที่โต๊ะใกล้ห้องน้ำที่เกิดเหตุถือเสื้อให้เพื่อนที่เข้าไปข่มขืนกระทำชำเรา และเพื่อดูเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแจ้งเหตุร้ายแก่ผู้กระทำผิด ถือได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๓๑๐, ๙๑, ๘๓
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ
จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖, ๓๑๐ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง, ๓๑๐ ลงโทษตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุพวกของจำเลยคนหนึ่งได้ฉุดผู้เสียหายเข้าไปกักขังในห้องน้ำ แล้วใช้กำลังกายทำร้ายขู่เข็ญบังคับและทำการข่มขืนกระทำชำเรา ขณะนั้นมีจำเลยกับพวกคอยอยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อพวกของจำเลยข่มขืนกระทำชำเรา ขณะนั้นมีจำเลยกับพวกคอยอยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อพวกของจำเลยข่มขืนกระทำชำเราเสร็จแล้ว พวกของจำเลยและจำเลยที่ ๑ ได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้าข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอีกหลายคน ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ ๒ อยู่ในกลุ่มของพวกจำเลยที่ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และขณะที่เกิดเหตุจำเลยที่ ๒ นั่งอยู่กับพวกที่โต๊ะใกล้ห้องน้ำที่เกิดเหตุถือเสื้อให้เพื่อนที่เข้าไปข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเห็นตำรวจจำเลยที่ ๒ ได้วิ่งหนีไปด้วย แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าขณะที่พวกของจำเลยและจำเลยที่ ๑ ข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยที่ ๒ นั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ห้องน้ำที่เกิดเหตุเพื่อดูเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแจ้งเหตุร้ายแก่ผู้กระทำผิดถือได้ว่าจำเลยที่ ๒ ร่วมกระทำผิดแล้ว
พิพากษายืน

Share