คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายในคดียักยอกแจ้งต่อตำรวจบันทึกไว้ว่า มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกันคดีขาดอายุความ ไม่เป็นการร้องทุกข์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพราะไม่ใช่แจ้งเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอก โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “เห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาเรื่องอายุความก่อน ข้อเท็จจริงในปัญหาข้อนี้ฟังได้ว่า โจทก์ได้ไปแจ้งความกล่าวหาจำเลยที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2514 ปรากฏตามเบ็ดเสร็จประจำวันบันทึกไว้ใจความว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันเอาที่ดินของกองมรดกไปขายรวม 4 แปลงในราคาถูก โดยเจตนาเบียดบังเอาราคาส่วนที่เกินเป็นของจำเลยที่ 1 โดยทุจริต โจทก์ทราบความจริงเมื่อวันที่ 14มิถุนายน 2514 จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับคดีขาดอายุความ ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความตามที่โจทก์แจ้งโดยมุ่งประสงค์แจ้งให้ตำรวจทราบเป็นหลักฐานเพื่อกันคดีขาดอายุความนั้น ไม่เป็นการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพราะมิใช่เป็นการแจ้งเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป อายุความจึงไม่สะดุดหยุดลง โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 1กรกฎาคม 2517 เกินสามเดือน นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการกระทำผิดของจำเลย คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ เทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 985/2514 คดีระหว่างนายแย้ม จิตต์ต่างวงศ์ โจทก์นายเจริญ พิพัฒน์สมบัติจำเลย”

พิพากษายืน

Share