แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ซึ่งเป็นบิดาจำเลย ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกจำเลยย่อมฟ้องแย้งในฐานะผู้จัดการมรดกได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534(ประชุมใหญ่ครั้งที่18/2515)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนางฉลวย กล้ากลางสมร แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๒ นางฉลวย กล้ากลางสมร ถึงแก่กรรมแล้ว ศาลมีคำสั่งตั้งจำเลยบุตรโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกก่อนถึงแก่กรรมนางฉลวย กล้ากลางสมร มีที่ดินอันเป็นสินบริคณห์ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน ๑๑,๙๒๐,๐๐๐ บาท โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งสินบริคณห์ในอัตรา ๒ ใน ๓ ส่วน เป็นเงิน ๗,๙๔๖,๖๖๖ บาท จำเลยไม่ยอมแบ่งให้ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยแบ่งสินบริคณห์ดังกล่าว ให้โจทก์เป็นเงิน ๗,๙๔๖,๖๖๖ บาท
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกนางฉลวย กล้ากลางสมร จริง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่เคยทวงถามให้จำเลยจัดการแบ่งมรดกเพราะโจทก์เก็บค่าเช่าที่ดินของกองมรดกจำเลยเรียกร้องให้โจทก์ส่งทรัพย์สินของเจ้ามรดกและค่าเช่านา ที่โจทก์เก็บไว้รวม ๗๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อหักส่วนแบ่งสินบริคณห์ของโจทก์ ๒ ใน ๓ ส่วน คงเป็นมรดก ๒๓๓,๓๓๓.๓๓ บาท โจทก์เพิกเฉย ขอให้พิพากษายกฟ้องโจทก์และบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลย ให้โจทก์ส่งทรัพย์ตามบัญชีท้ายคำให้การ หากส่งไม่ได้ให้ใช้ราคา ๖๖๐,๒๐๐ บาทแก่จำเลย กับให้โจทก์ใช้ค่าเช่านารวม ๒๓๓,๓๓๓.๓๓ บาท และค่าเช่าปีละ ๑๑๖,๖๖๖.๖๖ บาท นับแต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ จนกว่าโจทก์จะส่งที่นาแก่จำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การจำเลย ส่วนฟ้องแย้งไม่รับ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๓๔
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งขอให้รับฟ้องแย้ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา ๑๕๓๔ เป็นบทบัญญัติที่ตัดสิทธิ จำเป็นที่จะต้องแปลความโดยเคร่งครัด คดีนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนางฉลวย กล้ากลางสมร ขอให้จำเลยแบ่งสินบริคณห์จากกองมรดกให้โจทก์ในฐานะคู่สมรส อันเป็นกรณีพิพาทระหว่างโจทก์กับผู้จัดการมรดกของภรรยาโจทก์ หาใช่ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวที่เป็นบุตรโจทก์ อันจะพึงถือว่าเป็นกรณีพิพาทระหว่างบิดากับบุตรไม่ฉะนั้น ที่จำเลยฟ้องแย้ง จึงเป็นฟ้องแย้งในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องแย้งมิใช่ฟ้องแย้งในฐานะส่วนตัวที่เป็นบุตร หรือฟ้องแย้งในนามของบุตรโจทก์ซึ่งเป็นทายาทของนางฉลวย อันจะถือเท่ากับบุตรฟ้องบิดาดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่มีมติว่าฟ้องแย้งของจำเลยไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๓๔
พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป