คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องอ้างว่าหนี้เงินกู้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์มิใช่หนี้ร่วมผู้ร้องมิได้เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นยินยอมด้วยโจทก์คัดค้านว่าจำเลยได้นำเงินกู้ไปใช้ในการอุปการะเลี้ยงดูในครอบครัวและนำเงินบางส่วนไปชำระหนี้ค่าปลูกสร้างและตกแต่งบ้านที่โจทก์นำยึดคดีมีประเด็นพิพาทว่าหนี้เงินกู้นั้นเป็นหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1490หรือไม่การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าหนี้ดังกล่าวจำเลยก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวแต่ผู้ร้องได้ให้สัตยาบันจึงเป็นหนี้ร่วมตามมาตรา1490(4)แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ตั้งประเด็นว่าเป็นหนี้ร่วมเพราะเกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัวตามมาตรา1490(1)ศาลอุทธรณ์ภาค3ก็มีอำนาจวินิจฉัยว่าเป็นหนี้ร่วมตามมาตรา1490(1)นี้ได้ไม่เป็นการนอกประเด็น

ย่อยาว

คดี สืบเนื่อง จาก โจทก์ ฟ้อง ให้ จำเลย ชำระ เงิน ตาม สัญญากู้ พร้อมดอกเบี้ย ศาล พิพากษา ให้ จำเลย ชำระ เงิน จำนวน 69,062 บาท พร้อม ดอกเบี้ยร้อยละ เจ็ด ครึ่ง ต่อ ปี ของ ต้นเงิน 65,000 บาท นับ ถัด จาก วันฟ้อง จนกว่าจะ ชำระ เสร็จ และ ให้ ชำระ ค่าฤชาธรรมเนียม โดย กำหนด ค่า ทนายความ800 บาท แทน โจทก์ ต่อมา จำเลย ไม่ชำระ โจทก์ จึง นำ เจ้าพนักงาน บังคับคดีไป ยึด ที่ดิน โฉนด เลขที่ 22173 พร้อม บ้าน ตึก ชั้น เดียว ออก ขายทอดตลาดเพื่อ นำ เงิน มา ชำระหนี้ โจทก์
ผู้ร้อง ยื่น คำร้อง ว่า ที่ดิน และ บ้าน ดังกล่าว เป็น สินสมรส ระหว่างผู้ร้อง กับ จำเลย แต่ หนี้ ที่ จำเลย ก่อ ขึ้น มิใช่ หนี้ ร่วม เพราะ ผู้ร้องไม่เคย รู้เห็น ยินยอม ด้วย จึง ขอ กัน เงิน ที่ ได้ จาก การ ขายทอดตลาดทรัพย์สิน ดังกล่าว กึ่งหนึ่ง ตาม กฎหมาย
โจทก์ คัดค้าน ว่า หนี้ เงินกู้ ที่ จำเลย มี ต่อ โจทก์ นั้น จำเลยได้ นำ เงิน มา เลี้ยงดู ครอบครัว เพราะ ผู้ร้อง ไป ทำงาน ต่างจังหวัดไม่ได้ ให้ ความ อุปการะ เลี้ยงดู จำเลย และ บุตร นอกจาก นี้ จำเลย นำ เงินกู้บางส่วน ไป ชำระ ค่า ปลูกสร้าง และ ตกแต่ง บ้าน ที่ ถูก โจทก์ นำยึด หนี้ดังกล่าว จึง เป็น หนี้ ร่วมกัน ระหว่าง จำเลย และ ผู้ร้อง ขอให้ ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้น ไต่สวน แล้ว มี คำสั่ง ให้ยก คำร้อง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “พิเคราะห์ แล้ว คดี มี ปัญหา วินิจฉัย ตาม ฎีกาของ ผู้ร้อง ประการ แรก ว่า ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 วินิจฉัย คดี นอกประเด็นหรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้อง อ้าง เหตุ ใน คำร้อง ว่า หนี้ ที่ จำเลย ก่อ ขึ้นนั้น มิใช่ หนี้ ร่วม เพราะ การ ที่ จำเลย เป็น หนี้ โจทก์ ผู้ร้อง มิได้ มี ส่วนเกี่ยวข้อง หรือ รู้เห็น ยินยอม ด้วย และ โจทก์ ยื่น คำคัดค้าน ว่า เงิน ที่จำเลย กู้ ไป จาก โจทก์ จำเลย ได้ นำ ไป ใช้ ใน การ อุปการะ เลี้ยงดู บุตรและ จำเลย เอง และ บางส่วน จำเลย นำ ไป ชำระหนี้ ค่า ปลูกสร้าง และ ตกแต่งบ้าน หลัง ที่ โจทก์ นำยึด คดี จึง มี ประเด็น พิพาท ว่า หนี้ ที่ จำเลยก่อ ขึ้น เป็น หนี้ ร่วม ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1490หรือไม่ ดังนั้น การ ที่ ศาลชั้นต้น วินิจฉัย ว่า หนี้ ที่ จำเลย ก่อ ขึ้นเป็น การ ก่อ ขึ้น เพื่อ ประโยชน์ แก่ ตน ฝ่ายเดียว แต่ ผู้ร้อง ได้ ให้สัตยาบัน จึง เป็น หนี้ ร่วม ตาม มาตรา 1490(4) แม้ ว่า โจทก์ จะ มิได้อุทธรณ์ หรือ แก้ อุทธรณ์ ตั้ง ประเด็น ว่า เป็น หนี้ เกี่ยว แก่ การ จัดการบ้านเรือน และ จัดหา สิ่งจำเป็น สำหรับ ครอบครัว อัน เข้า ลักษณะ เป็นหนี้ ร่วม ตาม มาตรา 1490(1) ก็ ตาม ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ก็ มีอำนาจวินิจฉัย ว่า เป็น หนี้ ร่วม ตาม มาตรา 1490(1) ได้ หา เป็น การ วินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ ฎีกา ของ ผู้ร้อง นี้ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share