คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายหลายบทหลายกระทงตามคำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบนั้น กล่าวว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมาแล้วตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งหลังมายังไม่เกิน 5 ปี ก็กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก ย่อมหมายความถึงความผิดทุกกระทง แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 74 เมื่อศาลเห็นว่าความผิดกระทงใดเพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้ ก็ชอบที่จะเพิ่มตามมาตรา 72 ซึ่งเป็นบทเบากว่าได้

ย่อยาว

คดีนี้ จำเลยกระทำผิดหลายบทหลายกระทง ศาลทหารกรุงเทพฯ ได้พิพากษาลงโทษคือ

1. ฐานพกพาศาสตราวุธไปในถนนหลวง ตามมาตรา 335 ข้อ 2 ที่แก้ไข ให้ปรับ 12 บาท

2. ฐานชิงทรัพย์ตามมาตรา 299 จำคุก 4 ปี เพิ่มโทษตามมาตรา 74 เป็นทวีคูณ คงจำคุก 8 ปี

3. ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามมาตรา 120 จำคุก 4 เดือน

สำหรับกระทงที่ 3 เห็นว่าโจทก์มิได้ขอ และมิใช่เป็นความประสงค์ของโจทก์ จึงไม่เพิ่มโทษให้ รวมโทษ 3 กระทง เป็นโทษจำคุก 8 ปี 4 เดือนปรับ 12 บาทลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 ปี 2 เดือน ปรับ 6 บาท ศาลทหารกลางพิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้เพิ่มโทษในกระทงที่ 3

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบนั้น มีความหมายให้เข้าใจได้อยู่ว่า จำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมาแล้วตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งหลังยังไม่เกิน 5 ปี ก็มากระทำผิดในคดีนี้ ย่อมหมายความตลอดถึงความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานด้วย ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้ขอมาตรา 72 ด้วยนั้น เมื่อเพิ่มโทษตามมาตรา 74 สำหรับในกระทงความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานไม่ได้ ก็ชอบที่จะเพิ่มตามมาตรา 72 ซึ่งเป็นบทเบากว่าได้

พิพากษาแก้ ให้เพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ในกระทงความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน รวมเป็นโทษฐานนี้ 5 เดือน 10 วัน รวมโทษ 3 กระทง เป็นโทษจำคุก 8 ปี 5 เดือน 10 วัน ปรับ 12 บาท ลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 ปี 2 เดือน 20 วัน ปรับ 6 บาท นอกจากที่แก้คงยืน

Share