คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเป็นฝ่ายมาท้าทายและบุกรุกขึ้นไปทำร้ายฝ่ายจำเลยถึงบนเรือนก่อน แต่เมื่อจำเลยกับผู้ตายได้กอดปล้ำจนตกมาที่พื้นดิน และผู้ตายได้ลุกขึ้นวิ่งหนีไปแล้วจำเลยยังไล่ติดตามไปแทงผู้ตายตั้งหลายทีถึงแก่ความตาย ดังนี้ จะฟังว่าจำเลยกระทำไปโดยเจตนาป้องกันตัวหาได้ไม่ แต่พอถือได้ว่า จำเลยทำไปโดยบันดาลโทสะตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 55

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันฆ่านายช้อยตายขอให้ลงโทษ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายใหญ่ เฉื่อยมะเริงจำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 249 ให้จำคุก 20 ปี ส่วนนายใหญ่ ฉิมพะเนาว์มิได้กระทำผิด ให้ปล่อยตัวไป

นายใหญ่ เฉื่อยมะเริงจำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของนายใหญ่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 249, 50 ให้จำคุก 1 ปี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายมาท้าทายและบุกรุกขึ้นไปทำร้ายฝ่ายจำเลยบนเรือนก่อน จำเลยกับผู้ตายได้กอดปล้ำกันจนตกมาที่พื้นดินผู้ตายลุกขึ้นวิ่งหนีจำเลยยังไล่ติดตามไปแทงผู้ตายหลายที จนผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้จะฟังว่า จำเลยกระทำไปโดยเจตนาป้องกันตัวหาได้ไม่ แต่พฤติการณ์พอให้ถือว่า จำเลยทำไปโดยบันดาลโทสะต้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 55

จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249ประกอบกับมาตรา 55 ให้จำคุกจำเลย 7 ปี 6 เดือน

Share