แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำการเรี่ยไรด้วยการจำหน่ายรูปปั้นอ้างว่าเพื่อสร้างอนุสาวรีย์โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จำเลยจะได้เคยยื่นคำร้องขออนุญาตต่อคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร และคณะกรรมการฯมีหนังสือแจ้งมาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการขายสิ่งของมีสิทธิทำได้เอง ดังนี้จำเลยย่อมมีความผิด และไม่ถือว่าหนังสือคณะกรรมการฯนั้นเป็นคำสั่งอนุญาต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำการเรี่ยไรเงินโดยอ้างว่าจะนำไปสมทบทุนสร้างอนุสาวรีย์ให้แก่พระยาพหลฯ โดยมิได้รับอนุญาตจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตต่อคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรแล้ว คณะกรรมการฯ ลงมติว่า เป็นการขายสิ่งของมีสิทธิทำได้เองตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยมีว่า “คณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรได้ประชุมพิจารณาแล้ว ลงมติเห็นว่าเรื่องที่ท่านยื่นคำร้องนั้นมีสิทธิทำได้เอง ไม่ต้องขออนุญาตเพราะถือว่าเป็นการขายสิ่งของเท่านั้น” และได้ความว่าจำเลยเรี่ยไรโดยจำหน่ายรูปปั้นพระยาพหลฯ เพื่อปันผลรายได้สมทบทุน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามบทวิเคราะห์ศัพท์มาตรา 4 ปรับจำเลยคนละ 1 บาทตามพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร 2477 มาตรา 17 ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจมีช่องทางที่จะเป็นไปในทางไม่สุจริตพิพากษาแก้ให้ปรับคนละ 50 บาทนอกนั้นยืน
จำเลยทั้ง 3 ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ศาลล่างทั้ง 2 ปรับจำเลยไม่เกินพันบาท ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ศาลล่างทั้ง 2 ชี้ขาดว่า การกระทำของจำเลยเป็นการเรี่ยไร และเห็นพ้องด้วยศาลล่างว่าถ้อยคำในอัญญะประกาศไม่ใช่คำสั่งอนุญาต ให้ทำการเรี่ยไรจำเลยไม่พ้นผิด
พิพากษายืน