คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2518 ต่อมาปี 2532 ภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ตกต่ำอาชีพของโจทก์ไม่ค่อยดี โจทก์ติดต่อขอทำงานในประเทศไทยจึงปรึกษากับจำเลยว่าจะกลับประเทศไทย แต่จำเลยเห็นว่าอาชีพพยาบาลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาดีไม่ยอมกลับ ในปี 2534โจทก์จึงกลับประเทศไทย โจทก์จึงเป็นฝ่ายแยกจากจำเลยแต่ฝ่ายเดียว ไม่ใช่จำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(4)โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากัน จดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2518 ที่สถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา มีบุตรด้วยกัน 1 คนอายุ 18 ปี เมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม 2534 โจทก์ขอให้จำเลยมาอาศัยอยู่ร่วมกับโจทก์ ณ บ้านเลขที่ 246 ซอยแยกถนนสุนทรโกษาถนนสุนทรโกษา แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานครในฐานะที่โจทก์เป็นหัวหน้าครอบครัว แต่จำเลยเพิกเฉย และไม่ยอมมาอยู่ร่วมกับโจทก์จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ถือว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปเกิน 1 ปี โจทก์จึงไม่ประสงค์จะเป็นสามีภรรยากับจำเลยอีกต่อไป ขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่ากัน
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นคนขาดความรับผิดชอบไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดูบุตรและภรรยา ก่อนการสมรสจำเลยมีอาชีพเป็นพยาบาลมีตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง มีรายได้แน่นอน ฐานะความเป็นอยู่ดีหลังจากสมรสกัน โจทก์และจำเลยพักอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามาตลอด ภาวะค่าใช้จ่ายในครอบครัวจำเลยต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวทำให้จำเลยต้องทำงานหนักขึ้นจำเลยไม่ได้ทิ้งร้างโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “โจทก์ฎีกาข้อเดียวว่า จำเลยจงใจทิ้งร้างโจทก์เกิน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(4) ข้อนี้โจทก์เบิกความเป็นพยานว่าจดทะเบียนสมรสกับจำเลยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2518มีบุตรด้วยกัน 1 คน ต่อมาปี 2532 ภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาตกต่ำอาชีพของโจทก์ไม่ค่อยดี มีการตกงานบ่อย โจทก์ติดต่อขอทำงานที่บริษัทโอฬารแทรเวล จำกัด โดยทำงานด้านก่อสร้างในประเทศไทยจึงปรึกษากับจำเลยว่าจะกลับประเทศไทย แต่จำเลยเห็นว่าอาชีพพยาบาลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาดีไม่ยอมกลับ ดังนั้น ในปี 2534โจทก์จึงกลับประเทศไทย เห็นว่า ในขณะจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ จำเลยประกอบอาชีพและตั้งภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาโจทก์มีปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ โจทก์ได้กลับมาประเทศไทยโจทก์จึงเป็นว่าฝ่ายแยกจากจำเลยกลับมาประเทศไทยแต่ฝ่ายเดียวไม่ใช่จำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(4) โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share