แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชายหญิงได้เสียกันเองโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เมื่อเกิดบุตรขึ้นมา บุตรที่เกิดมานั้น ย่อมไม่ใช่บุตรอันชอบด้วยกฎหมายของชาย และเมื่อต่อมาชายก็มิได้จดทะเบียนรับรองหรือร้องขอต่อศาลให้แสดงว่า เป็นบุตรอีกเช่นนี้ ชายนั้นจึงไม่ใช่บิดาหรือทายาทของบุตรนั้น และย่อมไม่มีสิทธิที่จะรับมรดกของบุตร และไม่อาจที่จะยกอายุความมรดก 1 ปีมาต่อสู้แก่ทายาทได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางจันทร, โจทก์ นายหนิ้ว นางเกี๋ยงเป็นบุตรนายคำปันเจ้ามรดก นางจันทร์ตายแล้ว จำเลยได้เสียกันเองกับนางคำใสบุตรนางจันทร์ แต่มิได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกัน 3 คน แต่ตายหมดแล้ว นางคำใสก็ตายแล้ว บัดนี้จำเลยอ้างว่าที่พิพาทอันเป็นมรดกของนายคำปันนั้น ตกได้แก่บุตรจำเลย จำเลยจึงนำเจ้าพนักงานไปรังวัดจะขาย โจทก์ห้ามก็มิฟัง จึงขอให้ศาลสั่งว่า จำเลยไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่บุตรที่ตายไปแล้ว และแสดงว่าที่พิพาทตกได้แก่ทายาทโดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยไม่มีสิทธิรับมรดกของบุตร ที่พิพาทเป็นมรดกของนายคำปันผู้ตายอันควรได้แก่ทายาทตามกฎหมายให้ระงับการโอนที่พิพาทเสีย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยกับนางคำใสมิได้จดทะเบียนสมรสกันบุตรที่เกิดมาจึงไม่เป็นบุตรอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย และต่อมาจำเลยก็มิได้จดทะเบียนรับรองหรือร้องขอต่อศาลให้แสดงว่าเป็นบุตรของจำเลย ๆ จึงมิใช่บิดาหรือทายาทของเด็กโดยชอบด้วยกฎหมายจึงไม่มีสิทธิจะได้รับมรดกของเด็ก และไม่อาจยกอายุความมรดก 1 ปีมาต่อสู้แก่ทายาทของเด็กนั้นได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน