คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ซึ่งใช้บังคับขณะจำเลยยื่นอุทธรณ์ บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ที่จะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด10 วัน นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ มิได้บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของศาลที่จะต้องกำหนดเวลาให้ผู้อุทธรณ์ปฏิบัติไม่ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเวลาให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลก็ดี หรือการที่ศาลอุทธรณ์มิได้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาดังกล่าวนั้น หรือศาลอุทธรณ์มิได้กำหนดเวลาดังกล่าวเสียเองก็ดี หาใช่คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่จำเลยฎีกาไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าซื้ออิฐมอญจำนวน 61,978.24 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 61,193.34 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 800 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยอุทธรณ์ไม่ตรงประเด็นที่ศาลวินิจฉัยในคำพิพากษา ไม่แจ้งชัด และไม่เป็นสาระแก่คดีมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คืนค่าขึ้นศาล
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์โดยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ส่งศาลอุทธรณ์เพื่อมีคำสั่งต่อไป
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งไม่รับอุทธรณ์โดยจำเลยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234ที่ใช้บังคับขณะจำเลยยื่นอุทธรณ์บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ที่จะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์มิได้บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของศาลที่จะต้องกำหนดเวลาให้ผู้อุทธรณ์ปฏิบัติไม่ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเวลาให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลก็ดี หรือการที่ศาลอุทธรณ์มิได้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้ผู้อุทธรณ์นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลหรือศาลอุทธรณ์มิได้กำหนดเวลาดังกล่าวเสียเองก็ดี หาใช้คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่จำเลยฎีกาไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share