คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

วันนัดสืบพยานโจทก์ตอนเช้าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไปตามคำร้องขอของทนายจำเลยก็ชอบที่จะสืบพยานโจทก์ไปได้เมื่อจำเลยแถลงขอให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ในตอนบ่ายศาลก็อนุญาตเมื่อถึงตอนบ่ายทนายจำเลยก็ยังไม่มาศาลจำเลยแถลงขอให้เลื่อนไปอีก1ชั่วโมงศาลก็อนุญาตอีกทนายจำเลยก็ไม่มาศาลและจำเลยไม่แต่งทนายเข้ามาใหม่ตามที่แถลงไว้ศาลได้สืบพยานโจทก์ต่อหน้าจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยจะซักค้านพยานโจทก์การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของทนายจำเลยที่ขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยให้ทนายจำเลยได้ซักค้านพยานโจทก์จึงถูกต้องแล้ว.(ที่มา-เนติฯ)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 1 ชำระ เงิน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย แก่ โจทก์ หาก จำเลย ที่ 1 ไม่ ชำระ ให้ จำเลย ที่ 2 ชำระ แทนจน ครบ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ข้อกฎหมาย ว่า ‘ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา ขอ ให้ศาลชั้นต้น ดำเนิน กระบวน พิจารณา สืบ พยาน โจทก์ ใหม่ นั้น ปรากฏ ว่าศาลชั้นต้น นัดสืบ พยาน โจทก์ วันที่ 8 ธันวาคม 2525 เวลา 8.30 นาฬิกาโจทก์ ทนายโจทก์ และ จำเลย ที่ 1 มา ศาล ทนายจำเลย ทั้ง สอง ไม่ ได้ มาศาล แต่ ได้ มอบฉันทะ ให้ เสมียนทนาย นำ คำร้อง ขอ เลื่อนคดี มา ยื่นศาลชั้นต้น เห็นว่า ทนายจำเลย มี เจตนา ประวิงคดี ไม่ อนุญาต ให้ เลื่อน ซึ่ง ศาลชั้นต้น จะ ต้อง พิจารณา สืบ พยานโจทก์ ไป แต่ จำเลย ที่ 1แถลง ขอ ให้ เลื่อน ไป พิจารณา ตอนบ่าย จำเลย ที่ 1 จะ ติดต่อ กับทนาย ให้ รีบ เดินทาง มา หรือ มิฉะนั้น ก็ จะ ตั้ง ทนาย เข้า มา ใหม่ศาลชั้นต้น ได้ สั่ง ให้ เลื่อน ไป พิจารณาคดี เวลา 13.30 นาฬิกา หากทนายจำเลย ไม่ มา หรือ จำเลย ไม่ แต่ง ทนาย เข้า มา ใหม่ ศาล จะ ดำเนินกระบวน พิจารณา ไป โดย ถือ ว่า จำเลย ไม่ ต้องการ ซักค้าน พยานโจทก์เมื่อ ถึง เวลา 13.30 นาฬิกา จำเลย ที่ 1 แถลงว่า ได้ โทรศัพท์ ทางไกลให้ ทนายความ เดินทาง มา จาก จังหวัด ชุมพร แล้ว เข้าใจ ว่า จะ มา ถึงศาล ประมาณ 14.30 นาฬิกา ขอ ให้ เลื่อน การ พิจารณา ไป อีก 1 ชั่วโมงครั้น ถึง เวลา 14.30 นาฬิกา ทนายจำเลย ไม่ มา ศาล ศาลชั้นต้น จึงพิจารณา สืบพยาน โจทก์ ไป จน คดี เสร็จ การ พิจารณา เวลา 15.20 นาฬิกาทนายจำเลย ยื่น คำร้อง ขอ ให้ ศาล พิจารณาคดี ใหม่ โดย ให้ จำเลย มีโอกาส ซักค้าน พยานโจทก์ ศาลชั้นต้น สั่ง ว่า ไม่ มี เหตุ ที่ จะ ยก คดีขึ้น พิจารณา ใหม่ ยก คำร้อง ดังนี้ เห็น ว่า ใน ตอนเช้า ศาลชั้นต้น มีคำสั่ง ไม่ อนุญาต ให้ เลื่อนคดี ไป ตาม คำร้อง ของ ทนายจำเลย ทั้ง สองแล้ว ก็ ชอบ ที่ จะ ดำเนินการ พิจารณา สืบ พยานโจทก์ ไป ได้ เมื่อจำเลย ที่ 1 แถลง ขอ ให้ เลื่อน ไป สืบ พยานโจทก์ ใน ตอนบ่าย ศาล ก็อนุญาต เมื่อ ถึง ตอนบ่าย ทนายจำเลย ก็ ยัง ไม่ มา ศาล จำเลย ที่ 1 ได้แถลง ขอ ให้ เลื่อน ไป อีก 1 ชั่วโมง ศาล ก็ อนุญาต อีก เห็น ได้ว่าศาลชั้นต้น ได้ ให้ โอกาส จำเลย มาก แล้ว เมื่อ ทนายจำเลย ไม่ มา ศาลจำเลย ที่ 1 ก็ ไม่ แต่งทนาย เข้า มา ใหม่ ตาม ที่ แถลง ไว้ ศาลชั้นต้นจึง ต้อง สืบ พยานโจทก์ ไป โดย ถือ ว่า จำเลย ไม่ ต้องการ ซักค้านพยานโจทก์ ตาม ที่ ได้ มี คำสั่ง ไว้ เมื่อ ศาล ไม่ อนุญาต ให้ เลื่อนคดี ไป ตาม คำร้อง ของ ทนายจำเลย ทั้ง สอง และ ทนายจำเลย ทั้ง สองไม่ ได้ มา ศาล ศาล ก็ ชอบ ที่ จะ สืบ พยานโจทก์ ไป ได้ โดย ไม่ ต้องคำนึง ถึง ว่า จำเลย ที่ 2 ไม่ ได้ มา ศาล แต่ ศาล ก็ ได้ อนุญาต ให้ตาม ที่ จำเลย ที่ 1 ซึ่ง มา ศาล และ แถลง ขอ แล้ว และ ศาล ก็ ได้สืบ พยานโจทก์ ต่อหน้า จำเลย ที่ 1 ไม่ ปรากฏ ว่า จำเลย ที่ 1 จะ ซักค้าน พยาน โจทก์ จะ ว่า ศาล ไม่ ให้ จำเลย ที่ 1 ถาม ค้าน พยานโจทก์ ดังฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สอง ไม่ ได้ ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ยก คำร้อง ของทนายจำเลย ทั้ง สอง ที่ ขอ ให้ พิจารณาคดี ใหม่ โดย ให้ ทนาย จำเลย ได้ซัก ค้าน พยานโจทก์ นั้น ถูกต้อง แล้ว’
พิพากษา ยืน ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ใช้ ค่าทนายความ ชั้นฎีกา2,000 บาท แทน โจทก์.

Share