คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใช้ปืนสั้นลูกซองยิงในระยะ 3 วา กระสุนปืนถูกเป็นแผลเพียงหนังขาด โลหิตซับบวมช้ำ แสดงว่าดินส่งกระสุนอ่อนมากไม่เหมือนปืนธรรมดา ไม่สามารถทำให้ตาย เป็นผิดเพียง มาตรา 254 ไม่ใช่ 249,60

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2497 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกบังอาจสมคบกันใช้อาวุธปืนยิงนายแก้ว จันทสิงห์ โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่หากมีเหตุอันพ้นวิสัยที่จะป้องกันได้มาขัดขวางโดยกระสุนปืนที่จำเลยยิงพลาดไปไม่ถูกอวัยวะสำคัญ เป็นแต่เพียงถูกที่ใต้หูขวาหนังขาดโลหิตไหล และถูกที่หัวเข่าซ้ายถึงบาดเจ็บนายแก้วจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย เหตุเกิดที่ตำบลนาเกาะ อำเภอหล่มเก่า ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษปรับฐานทำและมีสุราแช่พ้นโทษยังไม่เกิน 5 ปี ไม่เข็ดหลาบ ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60, 72 และริบกระสุน 2 เม็ด และกระดาษฝาอัดกระสุน 1 ชิ้น

จำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ ส่วนข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษยังไม่เกิน 5 ปี รับว่าเป็นความจริง

ศาลจังหวัดหล่มสักพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ประกอบด้วยมาตรา 60 จำคุกจำเลย 10 ปี และให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 72 อีก 1 ใน 3 รวมเป็น 13 ปี 4 เดือน แต่จำเลยอายุยังไม่เกิน 20 ปี ควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 58 ทวิ คงจำคุกจำเลย 6 ปี8 เดือน ของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี และเพิ่มโทษจำเลยอีก 1 ใน 3 ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 72 รวมลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน ของกลางริบ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาได้ประชุมปรึกษาคดีนี้ ทางพิจารณาได้ความว่า เมื่อคืนโจทก์หา เวลาประมาณ 22.00 นาฬิกา นายแก้วเดินออกจากร้านค้าเพื่อไปส่งนายเทิง ซึ่งมาซื้อของกลับบ้าน พอนายแก้วและนายเทิงเดินไปห่างรั้วประมาณ 2 วา จำเลยซึ่งอยู่นอกรั้วห่างรั้วประมาณ 1 วาก็ใช้ปืนลูกซองสั้นยิงมาทางช่องประตูรั้ว 1 นัด แล้วกลับหลังวิ่งหนีไปตามถนนหลวง มีพวกจำเลยคนหนึ่งวิ่งตามไปด้วย เจ้าพนักงานได้ชันสูตรบาดแผลนายแก้วไว้ตามรายงานชันสูตรท้ายฟ้อง ปรากฏว่ามีบาดแผล 2 แห่ง คือ 1. ที่ใต้หูขวา กว้าง 0.7 เซ็นติเมตร ยาว 2.00 เซ็นติเมตร หนังขาดโลหิตซับ และ 2. ที่หัวเข่าซ้ายบวมช้ำนายแก้วรักษาเอง 10 วันหายเป็นปกติ สาเหตุทั้งนี้นายแก้วเข้าใจว่าจำเลยคงสงสัยว่าตนรับสินบนจับสุราเถื่อนของจำเลย

ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยใช้ปืนลูกซองสั้นยิงนายแก้ว ผู้เสียหายในระยะใกล้ชิดเพียง 3 วา แม้แผลที่หัวเข่าผู้เสียหายถูกกระสุนปืนจำเลยอย่างจัง ก็เพียงแต่ช้ำเป็นจุดเขียวเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นโดยทั่วไปว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหายมีลักษณะไม่เหมือนปืนธรรมดาเป็นปืนลูกปราย ซึ่งมีดินส่งกระสุนอ่อนมาก ไม่สามารถจะทำอันตรายชีวิตบุคคลให้ถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าคนเทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 996/2484 ระหว่างอัยการพระนครศรีอยุธยาโจทก์ นายทอง อินสอาด จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 727/2496 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี โจทก์ นายนงค์ เสาะแสวงกับพวกจำเลย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share