คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทเฉพาะส่วนโดยการครอบครองปรปักษ์ เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่คำนวณเป็นราคาเงินได้ แต่เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้คัดค้าน ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท คดีจึงเปลี่ยนเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินอันเป็นคดีมีทุนทรัพย์ มิใช่คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้อีกต่อไป เมื่อทุนทรัพย์คดีนี้ไม่เกิน 300,000 บาท คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 (4) ศาลจังหวัดชอบที่จะมีคำสั่งให้โอนคดีเรื่องนี้ไปยังศาลแขวงได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเฉพาะส่วนที่ผู้ร้องครอบครองเนื้อที่ 391 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ ให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดแบ่งแยกออกเป็นโฉนดที่ดินอีกฉบับหนึ่งให้แก่ผู้ร้อง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลจังหวัดสุรินทร์ เห็นว่า คดีนี้เป็นการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ โดยทุนทรัพย์คดีนี้ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้น (ศาลแขวงสุรินทร์) จึงมีคำสั่งให้โอนคดีไปยังศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคท้าย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์และไม่อยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้น พิพากษาให้ยกคำร้องขอ
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องมีว่า คดีนี้เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณราคาเป็นเงินได้หรือคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่ เห็นว่า การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทเฉพาะส่วนโดยการครอบครองปรปักษ์ เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ แต่เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้คัดค้าน ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทคดี จึงเปลี่ยนเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินอันเป็นคดีมีทุนทรัพย์ มิใช่คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้อีกต่อไป เมื่อทุนทรัพย์คดีนี้ไม่เกิน 300,000 บาท คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 (4) ศาลจังหวัดสุรินทร์ชอบที่จะมีคำสั่งให้โอนคดีเรื่องนี้ไปยังศาลชั้นต้นได้ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นแล้วพิพากษายกคำร้องขอมานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

Share