คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยตกลงซื้อที่พิพาทและบ้านจากโจทก์และได้รื้อบ้านดังกล่าวไปเมื่อสัญญาเลิกกันเพราะจำเลยผิดสัญญา จำเลยมีหน้าที่ต้องคืนบ้านที่รื้อไปแก่โจทก์ หากไม่สามารถคืนได้ก็ต้องใช้ราคา จำเลยจะอ้างความยินยอมของโจทก์ให้รื้อบ้านเพื่อให้พ้นความรับผิดไม่ได้เพราะการรื้อบ้านเป็นความประสงค์ของจำเลยอันเนื่องมาจากการตกลงซื้อที่ดินและบ้านจากโจทก์โดยมิใช่ความประสงค์ของโจทก์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของที่ดินพร้อมบ้านเลขที่ 26จำเลยขอซื้อบ้านและที่ดินดังกล่าวจากโจทก์ในราคา 1,000,000 บาทและขอรื้อบ้านไปก่อนซึ่งโจทก์ยินยอม ครั้นถึงกำหนด จำเลยไม่ยอมไปรับโอนกรรมสิทธิ์บ้านกับที่ดินและชำระเงินให้โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายออกไปจากที่ดินดังกล่าวและส่งมอบให้โจทก์ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าบ้าน 200,000 บาท ค่าเช่าเดือนละ4,000 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน 2527 จนกว่าจำเลยและบริวารจะขนย้ายออกไปจากที่ดินโดยคิดถึงวันฟ้อง เป็นเงิน 84,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 284,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ
จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งสองไม่ใช่เจ้าของที่ดินและบ้านตามฟ้องจำเลยเช่าบ้านตามฟ้องเฉพาะชั้นล่างจากผู้อื่นมีกำหนด 1 ปี ครบกำหนดเวลาเช่าเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2527 จำเลยไม่เช่าต่อและย้ายออกจากบ้านดังกล่าวแล้ว จำเลยไม่เคยขอซื้อที่ดินและบ้านตามฟ้องจากโจทก์และไม่ได้รื้อบ้านตามฟ้องด้วย บ้านดังกล่าวเก่ามากราคาไม่เกิน 10,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าบ้าน200,000 บาท กับค่าเสียหายที่โจทก์ไม่ได้ใช้ที่ดิน 54,000 บาทรวมเป็นเงิน 254,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระหนี้เสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชดใช้เงินแก่โจทก์ทั้งสองเฉพาะค่าเสียหายที่ไม่ได้ใช้ที่ดินเป็นเงิน 54,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้ตกลงซื้อที่พิพาทและบ้านจากโจทก์และได้รื้อบ้านดังกล่าวไป เมื่อสัญญาเลิกกันเพราะจำเลยผิดสัญญาจำเลยมีหน้าที่ต้องคืนบ้านที่รื้อไปแก่โจทก์ เมื่อไม่สามารถคืนได้ก็จะต้องใช้ราคาบ้านดังกล่าว จำเลยจะอ้างความยินยอมให้รื้อบ้านของโจทก์เพื่อให้ตนพ้นความรับผิดไม่ได้ เพราะการรื้อบ้านดังกล่าวเป็นความประสงค์ของจำเลยอันเนื่องมาจากการตกลงซื้อที่ดินและบ้านจากโจทก์โดยมิใช่ความประสงค์ของโจทก์
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share