แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรดาอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ของพนักงานสอบสวนที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.อาญานั้น เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานสอบสวนโดยเฉพาะ และไม่มีบทกฎหมายแห่งใดให้บุคคลอื่นใช้อำนาจและหน้าที่นี้แทน ฉะนั้นกรมตำรวจซึ่งมิใช่พนักงานสอบสวน จึงหามีสิทธิที่มีร้องต่อศาลแทนพนักงานสอบสวน ขอให้ปล่อยทรัพย์ของกลางซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดไว้เป็นของกลางได้ไม่
(ประชุมใหญ่)
ย่อยาว
ปัญหาที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเป็นปัญหาเกี่ยวกับการบังคับคดี ในชั้นเดิมจำเลยได้จำนองเรือพวงจันทร์ไว้กับโจทก์โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง จำเลยทำสัญญาประณีประนอมยอมความให้ยึดเรือนี้ออกขายทอดตลาด ศาลแพ่งได้พิพากษาให้เป็นไปตามยอมนั้น โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเรือพวงจันทร์ เพื่อขายทอดตลาด
กรมตำรวจร้องคัดค้านว่าเรื่อยนต์ลำนี้จำเลยกับพวกสมคบกันใช้เป็นพาหนะลอบนำสินค้าที่ควบคุมออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดไว้เป็นของกลาง จึงขอให้ถอนการยึดคืนเรือนี้ให้แก่ผู้ร้อง เพื่อรักษาไว้เป็นของกลางในคดีอาญาจนกว่าคดีอาญาจะถึงที่สุด
ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยกับศาลแพ่ง ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคำร้องของกรมตำรวจดังกล่าวเป็นการอ้างสิทธิของพนักงานสอบสวนหรืออีกนัยหนึ่งเป็นการร้องต่อศาลแทนพนักงานสอบสวนนั้นเอง ศาลฎีกาได้ประชุมใหญ่แล้วมีมติว่า บรรดาอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ของพนักงานสอบสวนดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.อาญานั้นเป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานสอบสวนโดยเฉพาะ และทั้งไม่มีบทกฎหมายแห่งใดให้บุคคลอื่นใช้อำนาจและหน้าที่แทน ฉะนั้นกรมตำรวจซึ่งมิใช่พนักงานสอบสวนจึงหามีสิทธิที่จะเข้ามาแทนพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในเรื่องนี้ไม่จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ
จึงพิพากษายืน