แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลสั่งไม่รับฟ้อง โดยอ้างว่าสิทธิการฟ้องคดีระงับแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ดำเนินการไต่สวนต่อไปนั้น จำเลยจะฎีกายังไม่ได้เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย หากเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 296/2480 และ ที่ 199/2483)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๔,๓๒๙
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์ถอนคำร้องทุกข์เสียแล้ว สิทธิการฟ้องคดีย่อมระงับไปตามป.ม.วิ.อาญามาตรา ๓๙ (๒)
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กรณีไม่ใช่โจทก์ ไม่ติดใจเอาความหรือเลิกคดีกับจำเลย จึงพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินการไต่สวนต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่าตามป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๖๕ วรรค ๓ ก่อนศาลประทับฟ้องคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยยังไม่มีสิทธิที่จะฎีกาตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๙๖/๒๔๘๐, ๑๙๙/๒๔๘๓
จึงพิพากษากลับ ให้ยกฎีกาจำเลย