คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เพียงแถลงขอยึดทรัพย์ของจำเลยเพิ่มเพราะยังได้รับชำระหนี้จากจำเลยไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษา
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะสั่งอนุญาตแต่ก็มีเงื่อนไขว่าต้องไม่เกินยอดหนี้ ทั้งไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีและเจ้าพนักงานที่ดินได้ดำเนินการเกี่ยวกับการยึดที่ดินของจำเลยตามคำร้องตามวิธีการที่ ป.วิ.พ. มาตรา 304 บัญญัติไว้แต่อย่างใด ไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าเป็นการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเกินกว่าที่พอจะชำระหนี้หรือไม่ และต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 284 วรรคหนึ่ง ดังจำเลยอ้างหรือไม่ กรณีตามคำร้องยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้น จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิทางศาลได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าตอบแทนการโอนสิทธิครอบครอง ทำประโยชน์หรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทห้าแปลงให้แก่โจทก์ จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีและนำยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยหลายรายการนำออกขายทอดตลาดไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยัง ไม่พอชำระหนี้
จำเลยยื่นคำร้องว่าโจทก์ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอยึดทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวมีมูลค่าเกินกว่าหนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์มาก ขอให้ศาลสั่งห้ามโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์สินดังกล่าว และให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยแทน
โจทก์ไม่ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่โจทก์แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ขอยึดทรัพย์ของจำเลยเพิ่มตามคำแถลงเอกสารหมาย ล.ร.๑๖ และเจ้าพนักงานบังคับคดีสั่งอนุญาตให้ไปยึดทรัพย์ เพิ่มเติมได้ตามแถลงแต่ไม่เกินยอดหนี้นั้น เป็นการยึดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาเกินกว่าที่พอจะ ชำระหนี้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๔ วรรคหนึ่ง หรือไม่ เห็นว่า กรณีที่จะเป็น การยึดอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๐๔ บัญญัติให้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดทำโดยนำหนังสือสำคัญสำหรับทรัพย์สินนั้นมาและฝากไว้ ณ สถานที่ใด หรือแก่บุคคลใดตามที่ เห็นสมควร และแจ้งการยึดนั้นให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าพนักงานที่ดินผู้มีหน้าที่ทราบ ให้เจ้าพนักงานที่ดินบันทึกการยึดไว้ในทะเบียน แต่ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนได้ความว่าโจทก์เพียงแถลงขอยึดทรัพย์ของจำเลยเพิ่มเพราะยังได้รับชำระหนี้จากจำเลยไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษา แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะสั่งอนุญาตแต่ก็มีเงื่อนไขว่า ต้องไม่เกินยอดหนี้ ทั้งไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีและเจ้าพนักงานที่ดินได้ดำเนินการเกี่ยวกับการยึดที่ดินของจำเลยตามคำร้องตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ดังกล่าวข้างต้นแต่อย่างใด จึงไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าเป็นการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเกินกว่าที่พอจะชำระหนี้หรือไม่ และต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๔ วรรคหนึ่ง ดังจำเลยอ้างหรือไม่ กรณีตามคำร้องยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้น จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิ ทางศาลได้ คำสั่งและคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share