คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยมีหนี้สินเกี่ยวค้างกันคิดบัญชีแล้วจำเลยยังเป็นหนี้โจทก์อยู่ โจทก์ให้จำเลยทำเป็นสัญญากู้ จำเลยก็ทำให้ดังนี้ เป็นกรณีที่คู่สัญญาตกลงเปลี่ยนข้อผูกพันจากสัญญาเดิมมาผูกพันกันในลักษณะกู้เงิน การกู้เงินจึงเป็นนิติกรรมที่แสดงออกโดยเจตนาแท้จริงที่จะผูกพันกันตามที่แสดงนั้น หาใช่นิติกรรมอำพรางอย่างใดไม่
การที่โจทก์มาฟ้องหนี้เงินกู้ก่อนถึงกำหนดชำระนั้น เมื่อจำเลยปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่าเป็นนิติกรรมอำพราง ก็เป็นการแสดงว่าจำเลยปฏิเสธไม่ชำระหนี้ตามสัญญากู้ เท่ากับจำเลยไม่ถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา โจทก์ย่อมฟ้องบังคับให้จำเลยใช้หนี้ได้โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนดตามเงื่อนเวลา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ ๘๐,๐๐๐ บาท มีเครื่องเย็บหนังสืออัตโนมัติและแท่นอัดก๊อปปี้เป็นประกัน ก่อนหนี้ถึงกำหนด จำเลยโอนทรัพย์ที่เป็นหลักประกันและหลีกเลี่ยงไม่ชำระหนี้ จึงขอให้ศาลแสดงว่ากำหนดเวลาชำระหนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่จำเลย ให้จำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ลงชื่อในสัญญากู้ให้โจทก์ จำเลยไม่ได้รับเงินจากโจทก์ สัญญากู้เงินนิติกรรมอำพรางการจ้างทำสมุดปฏิทินซึ่งโจทก์ออกสิ่งของให้จำเลยพิมพ์ มีข้อตกลงกันว่าจำเลยขายสมุดปฏิทินได้ผ่อนทุนให้โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินกู้ ๘๐,๐๐ บาท ให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเบิกความเป็นพยานก็รับว่าได้ทำสัญญากู้ที่โจทก์ฟ้อง เพราะเมื่อคิดบัญชีเกี่ยวค้างกับโจทก์แล้ว คงเป็นหนี้ที่จำเลยค้างชำระอยู่ ๘๐,๐๐๐ บาท โจทก์ให้จำเลยทำเป็นสัญญากู้จำเลยก็ทำให้ ดังนี้ เป็นกรณีที่คู่สัญญาตกลงเปลี่ยนข้อผูกพันจากการจ้างทำของมาผูกพันกันในลักษณะกู้เงินตามที่ได้ทำสัญญาขึ้นไว้ การกู้เงินจึงเป็นนิติกรรมที่แสดงออกโดยเจตนาแท้จริงที่จะผูกพันตามที่แสดงนั้น หาใช่นิติกรรมอำพรางอย่างใดไม่ จำเลยก็รับอยู่ว่าเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ในขณะนั้น ๘๐,๐๐๐ บาท สัญญากู้นั้นจึงผูกพันจำเลยโดยบริบูรณ์ ข้อที่โจทก์มาฟ้องจำเลยก่อนกำหนดชำระเงินที่ระบุไว้ในสัญญานั้น เห็นว่า เมื่อจำเลยปฏิเสธความรับผิดในสัญญากู้นั้นเสียแล้ว ก็แสดงว่าจำเลยไม่ถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญากู้นั้น เพราะเงื่อนเวลานั้นลูกหนี้ย่อมสละเสียได้ เหตุนี้ เงื่อนเวลาจึงไม่เป็นข้อที่จำเลยจะอ้างเป็นประโยชน์ได้ต่อไป โจทก์ย่อมฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนดตามเงื่อนเวลา ข้อที่โจทก์อ้างมาในฟ้องว่าจำเลยได้จำหน่ายหลักประกันไม่เป็นสาระสำคัญที่จะต้องพิจารณาต่อไป จำเลยยังเบิกความรับว่า ขณะที่เบิกความนี้ จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ ๘๐,๐๐๐ บาท
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share