แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีร้องขัดทรัพย์ทั้งหมดมีราคาเพียง 520 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์ทั้งหมด ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาให้ถอนการยึดเรือนราคา 20 บาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนที่ดิน 3 แปลงราคาไม่เกิน 500 บาทให้โจทก์มีสิทธิยึดเพื่อขายทอดตลาดได้ ได้สุทธิเท่าใดมอบให้ผู้ร้องกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งหักใช้หนี้ตามคำพิพากษา ดังนี้เป็นการพิพากษาแก้น้อยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ชนะคดีจำเลย ๆ ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงขอให้ยึดที่ดินและเรือนตามบัญชีทรัพย์หมายเลข ๑ ถึง ๔
นายมีผู้ร้องขัดทรัพย์ว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นของผู้ร้องจริง พิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์ทั้งหมด
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ทรัพย์ที่พิพาทคือที่ดิน บ้าน นา และสวนหม่อนนั้น ผู้ร้องกับนางแป้นจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกันคนละครึ่ง โจทก์มีสิทธิยึดถือเพื่อขายทอดตลาดได้ ได้สุทธิเท่าใดมอบให้ผู้ร้องไปกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งหักชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา ส่วนเรือนพิพาทคงพิพากษายืน ให้เพิกถอนการยึด
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะที่ดิน ๓ แปลง ซึ่งมีราคาไม่เกิน ๕๐๐ บาทเพียงกึ่งหนึ่งเท่านั้น ส่วนอีกกึ่งหนึ่งกับเรือนคงพิพากษายืน จึงเป็นการแก้น้อย จะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ให้ยกฎีกาเสีย