คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า การวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายขับอยู่ล้มลง ผู้เสียหายรับบาดเจ็บที่แขน ขาและตามร่างกาย แต่มิได้กล่าวว่าการที่ผู้เสียหายรับบาดเจ็บดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้เสียหายรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ตาม ป.อ. มาตรา 336 วรรคสอง จึงไม่ถูกต้อง คงลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 336 วรรคแรก ซึ่งมีระวางโทษเบากว่าในวรรคสอง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 ไม่ฎีกา ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองและปรับบทให้ถูกต้องได้ ทั้งมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 3 ที่มิได้ฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง, มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 336, 336 ทวิ ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนธนบัตรรัฐบาลไทย 400 บาท ธนบัตรสกุลยูโร 20 ยูโรที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย และริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลาง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคสอง ประกอบมาตรา 336 ทวิ, 83 จำคุกคนละ 9 ปี คำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 6 ปี ให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันคืนธนบัตรรัฐบาลไทย 400 บาท ธนบัตรสกุลยูโร 20 ยูโร ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย ริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลาง
จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน แต่ไม่ริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 โดยให้คืนรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 และรถจักรยานยนต์ป้ายแดง 9 – 789 ของบริษัท เอส.ที.จำกัด แก่เจ้าของ
โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลาง เป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกใช้ในการกระทำความผิดอันพึงต้องริบหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่าในการวิ่งราวทรัพย์ จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ป้ายแดง 9 – 789 ของบริษัท เอส.ที.จำกัด มีนายมนตรี นั่งซ้อนท้ายตัดหน้ารถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายขับ จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลาง มีพวกอีก 1 คน นั่งซ้อนท้ายขนาบด้านข้าง จำเลยที่ 3 ขับรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ประกบด้านหลัง โดยพวกซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับกระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกขับรถจักรยานยนต์แยกย้ายหลบหนี ตามพฤติการณ์เห็นได้ชัดว่า การที่จำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกวิ่งราวทรัพย์ย่อมต้องอาศัยรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลาง ในการกระทำความผิดด้วย เพราะหากไม่มีรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ จำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกย่อมไม่สามารถติดตามผู้เสียหายได้ทันและวิ่งราวทรัพย์ได้สะดวก อันถือได้ว่ารถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลางเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์โดยตรง จึงเป็นทรัพย์สินอันควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่ริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลางและคืนแก่เจ้าของ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง โจทก์บรรยายฟ้องว่า การที่วิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายขับอยู่ล้มลง ผู้เสียหายรับบาดเจ็บที่แขน ขาและตามร่างกาย แต่มิได้กล่าวว่าการที่ผู้เสียหายรับบาดเจ็บดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้เสียหายรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ทั้งในชั้นพิจารณาโจทก์ก็มิได้นำสืบโดยมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้เสียหายรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจอีกด้วย ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 วรรคสอง จึงไม่ถูกต้อง คงลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ซึ่งมีระวางโทษเบากว่าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคสอง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 ไม่ฎีกา ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองและปรับบทให้ถูกต้องได้ ทั้งมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 3 ที่มิได้ฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง, 213 ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ, 83 จำคุกคนละ 6 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกคนละ 4 ปี ริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยง ภูเก็ต 74 ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8

Share