คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1665/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อตามรูปคดีไม่มีพฤติการณ์อย่างใดส่อแสดงว่าผู้ทำพินัยกรรมครอบครองมรดกของภรรยาไว้เพื่อทายาทอื่น แต่กลับทำพินัยกรรมระบุยกที่พิพาทให้โจทก์ ที่แปลงอื่นให้จำเลยที่ 1 และมีคำสั่งให้โจทก์แบ่งเงินให้จำเลยที่ 2 กับหลานทุกคนด้วย แล้วจำเลยที่ 1 ยังขอที่แปลงอื่นอีก ผู้ทำพินัยกรรมไม่ยอมให้ เช่นนี้ย่อมแสดงว่าผู้ทำพินัยกรรมได้ปกครองยึดถือสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สินมรดกของภรรยาตลอดมาเพื่อตนแต่ผู้เดียว
การที่ทายาทผู้มีสิทธิในมรดกมิได้ปกครองและมิได้ฟ้องร้องเสียภายใน 1 ปี ก็ย่อมขาดอายุความฟ้องคดีมรดก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเป็นบุตรนายแปลกนางเป๊อะ นางเป๊อะวายชนม์ก่อนนายแปลกครอบครองทรัพย์สินบริคณห์เป็นกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว นายแปลกทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้โจทก์ โจทก์มีสิทธิได้รับมรดกตามพินัยกรรม

จำเลยให้การว่าทรัพย์โจทก์เป็นสินบริคณห์ นายแปลกปกครองทรัพย์สินส่วนของนางเป๊อะแทนลูกหลานคือโจทก์จำเลย จึงไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินบริคณห์ให้ผู้อื่นเกินกว่าส่วนของตน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านายแปลกครอบครองที่พิพาทแทนบุตรหลานแปลงหนึ่งเป็นสินเดิมของนางเป๊าะอีกแปลงหนึ่งเป็นสินสมรสแก่นางเป๊อะ1 ใน 3 ส่วน สินเดิมและสินสมรสของนางเป๊อะเป็นมรดกของนางเป๊อะแบ่งแก่ทายาท

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่านายแปลกครอบครองมรดกนางเป๊อะเพื่อตนเองเกิน 1 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ พิพากษาว่าพินัยกรรมของนายแปลกสมบูรณ์ถูกต้อง โจทก์มีสิทธิรับมรดกรายพิพาทแต่ผู้เดียว

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดีไม่มีพฤติการณ์อย่างใดที่จะแสดงว่านายแปลกได้ครอบครองมรดกของนางเป๊อะไว้แทนจำเลย ตรงกันข้ามในพินัยกรรมของนายแปลกนั้นปรากฏว่านอกจากที่ดินที่พิพาทที่ยกให้แก่โจทก์แล้วนายแปลกยังยกที่ดินแปลงอื่น ๆ ให้แก่จำเลยที่ 1 และมีคำสั่งให้โจทก์แบ่งเงินให้แก่จำเลยที่ 2 และหลาน ๆ ทุกคนด้วยและขณะที่นายแปลกกำลังทำพินัยกรรมนั้นนายแหยมจำเลยที่ 1 ก็อยู่และได้ขอที่นาแปลงอื่นอีกด้วยแต่นายแปลกไม่ยอมให้ ซึ่งทั้งนี้ย่อมแสดงว่านายแปลกได้ปกครองและถือสิทธิเป็นเจ้าของในทรัพย์สินอันเป็นมรดกของนางเป๊อะตลอดมาแต่ผู้เดียว จำเลยมิได้ปกครองและมิได้ร้องขอรับมรดกของนางเป๊อะเสียภายใน 1 ปี พิพากษายืน

Share