คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกมีปืนเป็นอาวุธ ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยจำเลยกับพวกใช้ปืนขู่เข็ญไม่ให้พวกเจ้าทรัพย์ขัดขวาง มิฉะนั้นจะใช้ปืนยิงให้ตาย ดังนี้ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า เมื่อเจ้าทรัพย์กับพวกตามจำเลยกับพวกไปทัน พวกจำเลยเอาปืนยิงเจ้าทรัพย์เจ้าทรัพย์ก็ยิงโต้ตอบกันหลายนัด ก็ดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสอง จะลงโทษจำคุกจำเลยได้ไม่เกิน 15 ปีเท่านั้น เพราะตามฟ้องไม่ได้บรรยายว่า จำเลยยิงปืน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกมีปืนเป็นอาวุธ ร่วมกันปล้นกระบือของนายสังเวียนและนายเย ซึ่งเลี้ยงรวมกันอยู่ขณะอยู่ในความดูแลรักษาของนายสันต์ไปโดยทุจริต โดยจำเลยกับพวกได้ใช้ปืนขู่เข็ญไม่ให้พวกนายสันต์เข้าขัดขวาง มิฉะนั้นในทันใดนั้นจะใช้อาวุธปืนยิงประทุษร้ายให้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายรายนี้จริงพิพากษาให้จำคุกจำเลย 20 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เวลาจำเลยไล่กระบือไปยังมีนายเปาะและนายเพียเห็นจำเลยกับพวก นายเปาะจำได้ว่ากระบือของนายสังเวียน ยังร้องถามไป ทันใดพวกจำเลย 2 คนก็ยกปืนประทับหันปากกระบอกมาทางนายเปาะนายเปาะวิ่งหนีไปได้สัก 1 เส้น ปืนก็ดัง 1 นัด ต่อมานายสังเวียนมาพบนายเปาะนายเพีย แล้วชวนตามจำเลยกับพวกไปจนใกล้เขตแดนประเทศไทยกับเขมรก็ทันจำเลยกับพวก พวกจำเลยเอาปืนยิงนายสังเวียน นายสังเวียนก็ยิงโต้ตอบกันหลายนัด แล้วจำเลยกับพวกก็หนีเข้าประเทศเขมรไป ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยกับพวกได้ปล้นกระบือของนายสังเวียนและนายเยไปจริง แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปีนั้นยังคลาดเคลื่อนต่อข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340วรรคสอง โดยจะลงโทษจำคุกจำเลยได้ไม่เกิน 15 ปีเท่านั้นเพราะตามฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่า จำเลยยิงปืน

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นให้จำคุกจำเลย 10 ปี

Share