แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินและมีโทษตามมาตรา 108 ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ข้อ 11 นั้น จะต้องเป็นการฝ่าฝืนนับแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวใช้บังคับ แต่การกระทำของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนอยู่ก่อนซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 9 ประกอบด้วยมาตรา 108 เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษตามมาตรา 9ประกอบด้วยมาตรา 108 จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐและทำให้เสื่อมสภาพที่ดินของรัฐ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา ๙, ๑๐๘ ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลงวันที่๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ ข้อ ๑๑ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓, ๘๓กับสั่งริบรถยนต์หนึ่งคัน และผานพวง อุปกรณ์ของรถ ซึ่งเป็นยานพาหนะและเครื่องมือเครื่องใช้ในการกระทำความผิด และสั่งให้จำเลยกับบริวารออกจากที่ดินด้วย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๙, ๑๐๘ ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๙๖ ข้อ ๑๑ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ให้ลงโทษจำเลยฐานยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐกระทงหนึ่ง วางโทษจำคุกคนละ๓ เดือน และฐานทำให้ที่ดินหวงห้ามของรัฐเสื่อมสภาพที่ดินอีกกระทงหนึ่งวางโทษจำคุกคนละ ๓ เดือน คำให้การชั้นสอบสวนและชั้นศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยคนละ ๔ เดือน ริบของกลาง และให้จำเลยทั้งสองออกไปจากที่ดินด้วย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ คืนของกลางให้เจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ ได้เข้าไปครอบครองทำกินในสถานที่เกิดเหตุมาก่อน วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๑๕ ซึ่งเป็นวันที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ ๑ ได้กระทำผิดสิบกว่าปี และจำเลยที่ ๒ ก็เข้าไปช่วยจำเลยที่ ๑ไถที่ดินเท่านั้น จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตามมาตรา ๙ และมาตรา ๑๐๘ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ข้อ ๑๑ ที่โจทก์ขอให้ลงโทษ เพราะการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙ และมีโทษตามมาตรา ๑๐๘ ทวินั้น จะต้องเป็นการฝ่าฝืนนับแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวใช้บังคับ คือนับแต่วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๑๕ เป็นต้นไป แต่การกระทำของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙ อยู่ก่อนวันดังกล่าวซึ่งจะมีโทษตามมาตรา ๑๐๘ ต้องประกอบด้วยจำเลยฝ่าฝืนเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบที่คณะกรรมการตามกฎหมายนี้ได้กำหนดทั้งจะต้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งเป็นหนังสือให้ออกจากที่ดินพิพาทด้วย แต่โจทก์ก็มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษตามมาตรา ๙ ประกอบด้วยมาตรา ๑๐๘ ดังกล่าวนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
จึงพร้อมกันพิพากษายืน