คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1658/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสหรือไม่ ไม่ได้ตั้งประเด็นว่าที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309 เป็นสินสมรสหรือไม่ด้วย การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่ดินตาม น.ส.3เลขที่ 309 เป็นสินสมรส จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ส่วนที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสนั้น จำเลยไม่อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ ข้อเท็จจริงต้องฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นสินสมรส การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย จึงเป็นการพิพากษาประเด็นเป็นการไม่ชอบ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันโดยจดทะเบียนสมรสต่อมาได้จดทะเบียนหย่ากัน โดยมีข้อตกลงกันว่า จะดำเนินการแบ่งสินสมรสกัน คือที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 320 ในภายหลังต่อมาโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยจัดแบ่งสินสมรสดังกล่าวตามที่ตกลงกันไว้จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนแบ่งสินสมรสดังกล่าวให้โจทก์ครั้งหนึ่งหากไม่สามารถแบ่งกันได้ให้นำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดแบ่งเงินที่ขายได้ฝ่ายละครึ่งหนึ่ง และหากจำเลยไม่สามารถไปจดทะเบียนแบ่งสินสมรสให้โจทก์ได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ก็ขอให้ใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมตามอัตราส่วนครึ่งหนึ่งในเอกสารสิทธิ (น.ส.3) ที่ดินตามฟ้องโดยถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การว่าก่อนที่โจทก์จำเลยจะสมรสกัน โจทก์จำเลยได้ซื้อที่ดินคนละแปลงโดยจำเลยซื้อที่พิพาทส่วนโจทก์ซื้อที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309 ต่อมาโจทก์ได้ขายที่ดินดังกล่าวไป หากศาลจะฟังว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสที่ดินตาม น.ส.3เลขที่ 309 ก็ต้องเป็นสินสมรสด้วย โจทก์ต้องชดใช้ให้จำเลยจากสินสมรสส่วนของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสและโจทก์ได้รับที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309ราคา 20,000 บาท เท่ากับที่พิพาทในวันเดียวกับที่จำเลยได้รับโอนที่พิพาทมาซึ่งถือว่าเป็นสินสมรส แสดงว่าโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงแบ่งสินสมรสกันแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะขอแบ่งที่พิพาทจากจำเลยอีกพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าที่พิพาทตาม น.ส.3 เลขที่ 320 หมู่ที่ 4 ตำบลนาเคียน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เป็นสินสมรสหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าที่พิพาท และที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309 หมู่ที่ 4ตำบลนาเคียน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสินสมรสโจทก์จำเลยได้ตกลงแบ่งสินสมรสกันแล้วโจทก์อุทธรณ์ว่าที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309 ไม่เป็นสินสมรสศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยหย่ากันโดยไม่ติดใจเรื่องสินสมรสและกรณีเป็นทำนองต่างคนต่างซื้อแบ่งกันที่พิพาทใส่ชื่อจำเลยจึงต้องเป็นของจำเลย ส่วนอีกแปลงใส่ชื่อโจทก์จึงต้องเป็นของโจทก์เห็นว่า ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสหรือไม่ ไม่ได้ตั้งประเด็นว่าที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309 เป็นสินสมรสหรือไม่ด้วย จำเลยไม่ได้โต้แย้ง ดังนั้นที่ดินตาม น.ส.3เลขที่ 309 เป็นสินสมรสหรือไม่ จึงไม่เป็นประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 309 เป็นสินสมรส จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นการไม่ชอบ ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย จึงเป็นการวินิจฉัยไม่ตรงประเด็นเพราะศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสจำเลยไม่อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ในประเด็นนี้ข้อเท็จจริงต้องฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสศาลอุทธรณ์จึงพิพากษานอกประเด็น เป็นการไม่ชอบเช่นกัน ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เนื่องจากศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษานอกประเด็นด้วย ศาลฎีกาเห็นว่าไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่ จึงวินิจฉัยไปเสียเลยทีเดียวว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสโจทก์จำเลยจึงมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันคนละครึ่ง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษากลับว่า ให้จำเลยแบ่งที่พิพาทตาม น.ส.3 เลขที่ 320หมู่ที่ 4 ตำบลนาเคียน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง หากไม่สามารถตกลงแบ่งกันได้ให้ประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลยก่อน และถ้าหากไม่สามารถประมูลราคาได้ก็ให้นำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง

Share