แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเอาแหทอดปลาในหนองน้ำซึ่งเป็นลำเหมืองเอกชนสำหรับถ่ายน้ำสู่แม่น้ำ แม้จะมีผู้เช่าเอาเฝือกมากั้นไว้ด้านหนึ่งก็ตาม จำเลยก็ย่อมไม่มีผิดฐานลักทรัพย์ เพราะปลาในเหมืองมาจากทุ่งนาและแม่น้ำทั่วไป หาใช่เจ้าของนำมาเพาะเลี้ยงไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทอดแหในหนองน้ำร่องทรายอันเป็นหนองน้ำส่วนบุคคลซึ่งนายมูลเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองโดยการถือเช่าสิทธิในการจับปลาจากหม่อมยอดเรือน ณ ลำพูน ซึ่งเป็นเจ้าของโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้ปลาไปประมาณ 10 ตัว ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293, 63
จำเลยต่อสู้ว่าเป็นร่องน้ำสาธารณะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามฟ้องให้จำคุกคนละ 4 เดือนแต่ให้รอการลงโทษไว้
จำเลยที่ 2-3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทั้ง 4 มิได้กระทำผิดให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นหนองน้ำร่องทรายเป็นลำเหนืองสำหรับรับถ่ายน้ำลงสู่แม่น้ำ ปากหรือปลายเหมืองจดแม่น้ำกอง ทางด้านเหนือติดต่อกับเหมืองขวางปลาในเหมืองนี้มาจากแม่น้ำและทุ่งนาทั่วไป หาใช่เจ้าของนำมาเพาะเลี้ยงไม่ โจทก์นำสืบแต่เพียงว่านายมูลเอาเผือกไปกั้นไว้ที่ปากเหมืองตอนที่ติดต่อกับแม่น้ำกองเพียงเท่านี้ ปลาจะเข้าออกทางเผือกหรือทางอื่นใดได้หรือไม่ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจึงยังไม่พอฟังลงโทษจำเลย
จึงพิพากษายืน