คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขาดนัดในชั้นสืบพยานประเด็น เมื่อปรากฏว่าได้สืบพยานโจทก์ไปแล้ว 2 ปากรวมทั้งตัวโจทก์ และโจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องก่อนในวันเดียวกับที่ศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ขาดนัดว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ขอให้นัดสืบพยานจำเลยเช่นนี้ยังไม่สมควรจะยกฟ้องโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 อันเป็นบทบัญญัติในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาได้โดยอนุโลม ซึ่งหมายความว่า ให้ใช้ได้ตามควรแก่กรณี

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องเป็นอาญาสินไหม โดยหาว่าจำเลยสมคบกันหลอกลวงฉ้อโกงในทางอาญา ขอให้ลงโทษและเรียกค่าเสียหาย 108,000 บาท

ในระหว่างการพิจารณาสืบพยานโจทก์อยู่นั้น ได้มีการส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์คน 1 ที่ศาลจังหวัดสงขลา ๆ ได้เลื่อนคดี 3 ครั้งโดยพยานโจทก์ไม่มาศาล นัดที่ 4 พยานมาศาลแต่ศาลติดการพิจารณาคดีอื่น จึงเลื่อนไปแต่ในนัดต่อมาพยานโจทก์ไม่มาศาล จึงนัดเลื่อนไปอีก ครั้นนัดหลังนี้ ทั้งพยานและฝ่ายโจทก์และจำเลยไม่มีมาศาลเลยศาลจังหวัดสงขลาจึงส่งประเด็นคืนศาลจังหวัดปากพนัง ๆ นัดคู่ความมาพร้อมกัน ทนายโจทก์ขอเลื่อนไป ในที่สุดยื่นคำร้องว่า ไม่ติดใจฟังประเด็นและไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยยื่นคำร้องขอให้ยกฟ้องโดยว่า โจทก์ขาดนัดการพิจารณา เมื่อคราวส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดสงขลา ศาลจังหวัดปากพนังจึงพิพากษาว่า ในคดีอาญาโจทก์ขาดนัดแล้ว ให้ยกฟ้องโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166, 181 คดีส่วนแพ่งเห็นว่า โจทก์ประวิงความให้งดสืบพยานโจทก์และให้นัดสืบพยานจำเลย

โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อที่ศาลพิพากษายกฟ้องคดีอาญา

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้ได้ความว่า โจทก์ขาดนัดในชั้นสืบพยานประเด็น มาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 มาใช้บังคับโดยอนุโลมซึ่งหมายความว่า ให้ใช้ตามควรแก่กรณี คดีนี้ปรากฏว่า ศาลได้สืบพยานโจทก์ไปแล้ว 2 ปากรวมทั้งตัวโจทก์และโจทก์ได้ยื่นคำร้องในวันเดียวกันก่อนที่ศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ขาดนัดว่า โจทก์ไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ขอให้นัดสืบพยานจำเลย เช่นนี้ จึงเห็นได้ว่ายังไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะยกฟ้องโจทก์เสีย จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาไป

Share