คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องคดีอาญาหาว่าจำเลยทำสุรา มีเครื่องต้มกลั่นสำหรับทำสุราและมีสุรากลั่นสุราแช่ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา มาตรา 5, 32 แม้จะไม่บรรยายมาด้วยในคำฟ้องว่าสุรานั้นมีแรงแอลกอฮอล์กี่ดีกรี ดื่มกินได้เช่นน้ำสุรารัฐบาลหรือไม่ ก็เป็นคำฟ้องที่ครบองค์เป็นความผิดลงโทษจำเลยตามคำขอได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๑๒ เวลากลางวัน จำเลยได้ทำสุราและมีหม้อต้มสุรา ๑ หม้อ หม้อปล่อง ๑ หม้อ กะทะ ๑ ใบ ท่อต่อรางริน ๑ ชุด ตะกร้า ๑ ใบ อันเป็นภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราซึ่งมีไว้เพื่อทำสุราและมีสุรากลั่นบรรจุไห ๒ ไห กับ ๒ ขวด มีปริมาณน้ำสุรา ๔๗ ลิตร สุราแช่ ๑ ไห มีน้ำสุรา ๒ ลิตร ซึ่งจำเลยทำขึ้นนั้นไว้ในความครอบครอง ทั้งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพสามิตและโดยจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นฝ่าฝืนต่อมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ เหตุเกิดที่ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๕, ๓๐, ๓๒, ๔๕; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔, ๖ และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ อ้างว่าทำเพื่อไว้กินเอง ไม่ใช่เพื่อขาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๕, ๓๐, ๓๒, ๔๕; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔, ๖ ให้รวมกระทงลดโทษปรับ ๑,๐๐๐ บาท ปรานีลดโทษตามมาตรา ๗๘ ประมวลกฎหมายอาญากึ่งหนึ่ง คงปรับ ๕๐๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ว่า ฟ้องไม่ครบองค์ความผิด โดยกล่าวแต่ปริมาณของน้ำสุรา ซึ่งโจทก์ไม่ได้วัดน้ำสุรานั้นว่ามีแอลกอฮอล์กี่ดีกรี จำเลยไม่แน่ใจว่าแป้งที่จำเลยใช้หมักและต้มซึ่งซื้อจากคนอื่นมานั้นจะทำเป็นสุราได้จริงหรือไม่ ทั้งเครื่องต้มกลั่นก็เป็นของใช้ประจำครอบครัวเอามาใช้ทำ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะเรื่องราวกระทงลงโทษ โดยให้ลงโทษ จำเลยตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๕, ๓๐; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔ ซึ่งเป็นกระทงหนักปรับ ๑,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้วคงปรับ ๕๐๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยฎีกาว่าฟ้องไม่ครบองค์ความผิดดังเช่นอุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยเห็นว่า ในเรื่องนี้โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดแล้วว่าจำเลยได้ทำสุราและมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๕ ซึ่งมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้กำหนดโทษไว้ กับมีสุรากลั่นสุราแช่ ไว้ในความครอบครองอันเป็นความผิดตามมาตรา ๓๒ อีกฐานหนึ่งตามบทท้ายและบทกำหนดโทษดังกล่าว หาได้กำหนดไว้เป็นพิเศษว่าสุราตามความหมายของบทห้ามและบทลงโทษนั้นได้หมายถึงอะไรโดยเฉพาะไม่ฉะนั้นสิ่งอะไรที่จะถือว่าเป็นสุราจึงต้องดูกันตามความรู้จักของบุคคลโดยทั่ว ๆ ไป ถึงแม้ในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๔ จะได้กล่าวถึงคำว่าสุราให้หมายความรวมไปถึงอะไรไว้ด้วยก็ตาม ก็เป็นแต่การกำหนดเพิ่มเติมลงไปอีกว่า นอกจากเป็นสุรา (ที่รู้จักกันโดยทั่วไปแล้ว) ให้หมายความรวมไปถึงสิ่งอะไรอีกด้วยเท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อโจทก์กล่าวบรรยายฟ้องไว้ชัดว่าจำเลยทำสุราโดยไม่รับอนุญาต จำเลยให้การรับตามฟ้องก็เป็นการพอแล้วที่จะฟังว่าจำเลยทำสุราโดยไม่รับอนุญาตอันเป็นการผิดกฎหมายจริง หาใช่จำเป็นต้องพรรณาบอกว่าน้ำสุราที่จำเลยทำมีแรงแอลกอฮอล์กี่ดีกรีนั้นไม่ การที่รู้ดีกรีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแยกประเภทว่าเป็นสุราประเภทใดตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น ส่วนการทำสุราโดยไม่รับอนุญาตจะเป็นสุราประเภทใดก็เป็นความผิดในอัตราเดียวกัน การที่โจทก์บรรยายฟ้องมาดังกล่าวจึงเป็นการสมบูรณ์แล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
ศาลฎีกาพิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share