แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 เนื่องจากเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ดังกล่าว เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 4 โดยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 เป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามมาตรา 226 (1) และมีคำสั่งยืนตามคำสั่งปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 8 จึงเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 236 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากจำเลยที่ 2 ถึงที่ 8 และจำเลยที่ 10 ที่ 11 โดยในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 4 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ส่งโดยวิธีปิดหมายและสำเนาคำฟ้อง ณ ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 4 เจ้าหน้าที่ศาลจึงไปปิดหมายและสำเนาคำฟ้อง ณ ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 4 ต่อมาจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวอ้างว่าเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำสั่งว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องกรณีจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การโดยอ้างว่าไม่จงใจขาดนัด และคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องกรณีจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่มิใช่คำสั่งไม่รับหรือให้คืนคำคู่ความตามมาตรา 18 ซึ่งมิได้ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องหรือเสร็จไปเฉพาะแต่ประเด็นบางข้อตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 (3) จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวในระหว่างพิจารณาตามมาตรา 226 (1) ที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 4 นั้นชอบแล้ว จึงมีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 เนื่องจากเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ดังกล่าว และเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 4 โดยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 เป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1) และมีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 8 จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง จำเลยที่ 4 ไม่มีสิทธิฎีกาได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 4 มานั้น เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 4 ไม่ได้เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจึงไม่พิจารณาสั่งคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแก่จำเลยที่ 4 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากนี้ให้เป็นพับ.