แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้การชำระบัญชีสิ้นสุดไปแล้ว กฎหมายยังให้เจ้าหนี้ฟ้องเรียกหนี้สินที่บริษัทหรือผู้ถือหุ้นเป็นหนี้อยู่ได้
กรณีเรื่องนี้ว่ากล่าวกันให้บริษัทผู้ร้องต้องรับผิดเป็นเงินวางศาลเมื่อบริษัทผู้ร้องรับไม้ของกลางไปและได้ว่ากล่าวกันก่อนเลิกบริษัท ฉะนั้น ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 ประกอบมาตรา 1272 คู่กรณีจึงคงว่ากล่าวคดีกันต่อมาได้และทนายของบริษัทผู้ร้องคงมีอำนาจดำเนินคดีต่อมาตามที่ได้รับแต่งตั้งไว้ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้บริษัทผู้ร้องนำเงินราคาไม้ของกลางที่ยังขาด 1,398,000 บาท มาวางศาลภายใน 15 วันบริษัทผู้ร้องฎีกาต่อมาได้ไม่ต้องห้ามไม่อยู่ภายในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
บริษัทผู้ร้องขอให้คิดราคาไม้ของกลาง 4 เท่าของอัตราค่าภาคหลวงราคานี้กรมป่าไม้ขายให้เฉพาะองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งเป็นองค์การรัฐบาลเท่านั้นการตีราคาในคดีนี้ต้องถือราคาในท้องตลาดเป็นเกณฑ์ คือลูกบาศก์เมตรละ 2,050 บาท
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ไม้สักของกลางเป็นไม้ที่ผู้ร้องซื้อไว้โดยสุจริต ต่อมานายอำเภอแม่ระมาศตั้งข้อหาว่ากรรมการบริษัทผู้ร้องร่วมกระทำผิดกับจำเลย ได้อายัดไม้รายนี้ บัดนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องกรรมการของบริษัท การอายัดหมดความจำเป็น ไม้ของกลางตกอยู่ในสภาพเสียหาย ถ้ารอจนกว่าศาลมีคำพิพากษาให้ริบหรือคืนก็เสื่อมค่าลงเรื่อย ๆ จึงขอให้คืนให้ผู้ร้อง
อัยการโจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องไม่มีอำนาจขอคืน แต่ถ้าผู้ร้องจะขอให้ขายไม้ของกลางเอาเงินมาวางศาลจนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ไม่ค้านแต่ขอให้นัดพร้อมระหว่างโจทก์จำเลย ผู้ร้อง พนักงานสอบสวน เพื่อว่าผู้ใดจะค้าน และเพื่อตกลงในเรื่องราคา
ศาลชั้นต้นนัดพร้อม อัยการโจทก์ขอให้ป่าไม้เขตตากเป็นผู้มาตีราคา ศาลชั้นต้นเห็นว่าศาลตีราคาได้ ไม่ต้องอาศัยบุคคลอื่น จึงมีคำสั่งว่า ถ้าผู้ร้องจะขนย้ายไม้ของกลาง 749 ท่อน 760 ลูกบาศก์เมตร ไปดำเนินการประการใดตามประสงค์ ก็ให้นำเงินสด 160,000 บาท หรือ หลักทรัพย์ที่ศาลเห็นสมควรมาวางศาลภายใน 7 วัน
อัยการโจทก์อุทธรณ์ขอให้ตีราคาไม้ของกลางใหม่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นตีราคาโดยถือราคาไม้ที่เคยขายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นเกณฑ์ประการเดียว ไม่เห็นพ้องด้วย ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ดำเนินการตามกระบวนความ แล้วพิจารณาสั่งใหม่
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน
ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาใหม่ คู่ความแถลงว่าคงมีประเด็นเดียวว่าราคาไม้ของกลางที่จะให้ผู้ร้องวางแทนไม้เป็นจำนวนเท่าใดสืบพยานโจทก์และพยานผู้ร้องแล้วเห็นว่าราคาไม้ลูกบาศก์เมตรละ 2,050 บาท รวมราคา 1,558,000 บาท ให้ผู้ร้องนำเงินราคาไม้ที่ยังขาด 1,398,000 บาท มาวางศาลภายใน 15 วัน
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
โจทก์แก้ฎีกาและต่อมายื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ผู้ร้องฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 217, 218 และบริษัทผู้ร้องได้ชำระบัญชีจดทะเบียนเลิกบริษัทแล้วก่อนยื่นฎีกา กรรมการบริษัทผู้ร้องไม่มีอำนาจดำเนินคดี ทนายผู้ร้องผู้ลงนามในฎีกาไม่มีอำนาจดำเนินคดี ขอให้ยกฎีกา
ศาลฎีกาสั่งศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องโจทก์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้องเลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชี นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2507 จึงเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 บัญญัติว่า ห้างหุ้นส่วนก็ดี บริษัทก็ดี แม้จะได้เลิกกันแล้วก็ให้พึงถือว่ายังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อชำระบัญชี มาตรา 1272 ว่าในคดีฟ้องเรียกหนี้สินซึ่งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น หรือผู้ชำระบัญชีเป็นลูกหนี้ในฐานะเช่นนั้นท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชีศาลฎีกาเห็นว่า แม้การชำระบัญชีสิ้นสุดไปแล้วกฎหมายยังให้เจ้าหนี้ฟ้องเรียกหนี้สินที่บริษัทหรือผู้ถือหุ้นเป็นหนี้อยู่ได้ กรณีเรื่องนี้ก็เป็นกรณีที่ว่ากล่าวกันให้ฝ่ายผู้ร้องต้องรับผิดเป็นเงิน และได้ว่ากล่าวกันก่อนเลิกบริษัทเสียด้วยซ้ำฉะนั้น ตามนัยแห่งบทบัญญัติมาตรา 1249 ประกอบมาตรา 1272 คู่กรณีจึงคงว่ากล่าวคดีกันต่อมาได้ ทนายผู้ร้องจึงยังคงมีอำนาจดำเนินคดีต่อมาตามที่ได้รับแต่งตั้งไว้ได้และเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องอาศัยสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ยื่นคำร้องเข้ามาในคดีอาญาที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายธนูกับพวก ขอให้ลงโทษและริบไม้ของกลาง อ้างว่าผู้ร้องซื้อไม้สักของกลางไว้โดยสุจริต มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดร่วมกับจำเลยเป็นการร้องขอทรัพย์คืนโดยอ้างสิทธิในทางแพ่ง จึงไม่อยู่ภายในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ผู้ร้องฎีกาได้ ไม่ต้องห้าม และเห็นว่า ที่ผู้ร้องขอให้คิดราคาไม้ของกลาง 4 เท่าของอัตราค่าภาคหลวงราคานี้กรมป่าไม้ขายให้เฉพาะองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งเป็นองค์การรัฐบาลเท่านั้นการตีราคาในคดีนี้ต้องถือราคาในท้องตลาดเป็นเกณฑ์ ศาลชั้นต้นตีราคาลูกบาศก์เมตรละ 2,050 บาท โดยหักค่าขนส่งออกเสียก่อน ชอบด้วยคดีและเหตุผลแล้ว
พิพากษายืน