คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืน จำเลยเหล่านี้ได้สบคบกันปล้นทรัพย์นางดี ทิพประชาบาล ได้ทรัพย์ไปรวมราคา ๔๑๐๑ บาท ที่บ้านนางดี ทิพประชาบาล ตำบลหัวเตย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แลจับของกลางบางอย่างได้ที่จำเลยรวมราคม ๖๖๕ บาท ๕๐ สตางค์ ฯ
นายพัดจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลย ๕ คนได้ถามหาบ้านนางดี ทิพประชาบาล นายพัดก็บอกให้โดยไม่ทราบว่าจำเลย ๕ คนจะไปปล้นบ้านนางดี ทิพประชาบาล ฯ
จำเลย ๕ คนนอกจากนายพัดให้การว่า จำเลยได้มีอาวุธไปทำการลักทรัพย์ของนางดี ทิพประชาบาล แต่ไม่ได้แสดงอาการถึงเปนความผิดฐานปล้น ฯ
ศาลมณฑลสุราษฎร์พิจารณาแล้วลงความเห็นว่า พวกจำเลย ๕ คนนอกจากนายพัดได้พังประตูห้องเรือนนางดี ทิพประชาบาล แลฟันนางดี ทิพประชาบาล สีสะแตก ๑ แห่ง แล้วเอาทรัพย์ของนางดี ทิพประชาบาลไปได้รวมราคา ๔๐๗๕ บาท นายพัดได้เปนผู้ช่วยเหลือในการปล้น ชี้บ้านเจ้าทรัพย์ให้แก่พวกจำเลย ๕ คน จำเลยทั้ง ๖ คนนี้จึงมีความผิด จำเลย ๕ คนผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ ฐานเปนตัวการปล้นทรัพย์ ให้จำคุก ๑๒ ปี ลดฐานปราณีย์โดยให้การรับสารภาพลง ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๕๙ นายพัดมีความผิดฐานเปนผู้สมรู้การปล้นผิดตามมาตรา ๖๕ ให้วางโทษ ๑ ใน ๓ ของโทษจำเลยเมื่อยังไม่ได้ลด ของกลางที่จับได้รวมราคา ๖๓๔ บาท ๒๕ สตางค์ หักกับทรัพย์ที่ไม่ได้คืน คงทรัพย์ที่ขาดไป ๓๔๓๖ บาท ๗๕ สตางค์ จึงพิพากษาให้จำคุกนายเริ่ม ไพลอย นายจอน จิตร์จำนงค์ นายยกซ้าย ถัวตุ่น นายเกต วงษ์พิพันธุ์ นายแก้ว วงษ์สวัสดิ นายพัด เทพพิพิธ มีกำหนดคนละ ๘ ปี กับให้จำเลยช่วยกันใช้ทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนรวม ๓๔๓๖ บาท ๗๕ สตางค์ให้แก่เจ้าทรัพย์ถ้าไม่ใช้ให้ยึดทรัพย์ฤาจำไถ่โทษตามมาตรา ๑๘ แห่งกฎหมายลักษณอาญา แต่จำไม่เกิน ๑ ปี ฯ
จำเลยอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิจารณาแล้วพิพากษายืนตามศาลมณฑล ฯ
นายเกต วงษพิพันธุ์ นายแก้ว วงษ์สวัสดิ นายเริ่ม ไพลอย นายพัด เทพพิพิธ ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนแลปฤกษาคดีนี้ เห็นว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้ง ๒ วินิจฉัยว่า นายพัดจำเลยเปนผู้สมรู้การปล้น จำเลยนอกจากนายพัดเปนตัวการในการปล้นทรัพย์รายนี้ แลกำหนดโทษจำคุกจำเลยดังกล่าวมาแต่ต้นนั้น ไม่มีทางที่จะแก้ไขให้เปนอย่างอื่น ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น จำพิพากษายืนตามศาลล่าง ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย ฯ
วันที่ ๕ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓

Share