คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน การที่ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี โดยมิได้ปรับบทลงโทษตาม มาตรา 340 ด้วย เป็นการไม่ถูกต้อง เพราะมาตรา 340 ตรี เป็นเพียงเหตุที่ทำให้ผู้กระทำผิดตาม มาตรา 340 ต้องรับโทษหนักขึ้นเท่านั้น หาได้เป็นความผิดต่างหากอีกบทหนึ่งไม่ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ให้ถูกต้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันมีอาวุธปืน และใช้อาวุธปืนร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี, ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔, ๑๕ และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐ ตรี จำคุก ๑๘ ปี จำเลยที่ ๓ ผิดตามมาตรา ๓๔๐ จำคุก ๑๒ ปี ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้ว เชื่อว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๓ เป็นคนร้ายที่ร่วมกันกับพวกปล้นทรัพย์ผู้เสียหายจริง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ ตรี จำคุก ๑๘ ปี โดยมิได้ปรับบทลงโทษตามมาตรา ๓๔๐ ด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่ายังไม่ถูกต้อง เพราะมาตรา ๓๔๐ ตรี เป็นเพียงเหตุที่ทำให้ผู้กระทำผิดตามมาตรา ๓๔๐ ต้องรับโทษหนักขึ้นเท่านั้นหาได้เป็นความผิดต่างหากอีกบทหนึ่งไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐ วรรคสอง ประกอบกับ มาตรา ๓๔๐ ตรี และจำเลยที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสอง ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองและให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share