คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “รับเลี้ยง” ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 247นั้น หมายความถึงผู้ที่เป็นครูและมีหน้าที่เลี้ยงผู้ถูกทำร้ายด้วย
ในคดีข่มขืนชำเรา เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นครูสอนผู้เสียหายแต่ไม่ได้เป็นผู้รับเลี้ยงผู้เสียหายด้วย ดังนี้การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 247 อีกบทหนึ่ง(ฎีกาที่ 260/2477)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นครูโรงเรียนประชาบาลคลองกลันตันจังหวัดพระนคร ได้บังอาจใช้อำนาจด้วยกำลังกายกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.อำนวยมีบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 244, 245, 247 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2474 มาตรา 4 ฯลฯ

จำเลยปฏิเสธ

ศาลอาญาพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 244 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2474 มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 5 ปี และริบหินของกลาง ที่ไม่ลงโทษตามมาตรา 247 ด้วย เพราะครูอาจารย์ต้องเป็นผู้รับเลี้ยงผู้ถูกกระทำร้ายนั้นด้วยคดีนี้ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกระทำร้ายต้องอยู่ในความเลี้ยงดูของจำเลยเวลากระทำผิดก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว จะอนุโลมให้จำเลยมีความผิดตามมาตรา 247 ไม่ได้

โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ครูบาอาจารย์ที่รับเลี้ยงผู้ถูกทำร้ายตามมาตรา 247 นั้น หมายถึงผู้ที่เป็นครูและมีหน้าที่เลี้ยงผู้ถูกทำร้ายด้วย คำว่ารับเลี้ยง หมายถึงการเลี้ยงดูพิพากษายืน

แต่มีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่า แม้จำเลยกระทำผิดในเวลาเลิกเรียนก็ดี จำเลยมีหน้าที่ปกปักดูแลรักษาด.ญ.อำนวยผู้เป็นศิษย์ในฐานะที่จำเลยเป็นครูบาอาจารย์ มาตรา 247ที่บัญญัติว่า”รับเลี้ยงไว้” นั้นมิได้หมายความถึงว่า “การเลี้ยงดู”หมายความเพียงว่า “อยู่ในปกปักรักษาดูแลปกครองเท่านั้น” ไม่จำเป็นต้องป้อนข้าวป้อนน้ำให้ด้วย จึงเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิดตามมาตรา 247

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 247 อีกบทหนึ่ง ศาลฎีกาเห็นว่า “ครูบาอาจารย์ที่รับเลี้ยงผู้ถูกกระทำร้ายไว้” ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 247 นั้นหมายถึงครูอาจารย์ที่รับเลี้ยงดูผู้ถูกกระทำร้ายดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ จำเลยเป็นครูแต่ไม่ได้รับเลี้ยงผู้เสียหายความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยมาตรา 247 ดังตัวอย่างฎีกาที่ 260/2477 พิพากษายืน

Share