คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกล่าวถ้อยคำถึงราษฎร 2 อำเภอ ที่อพยพมาอยู่รวมกันในหมู่บ้านซึ่งมีจำนวนประมาณ 4,000 คน ว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนี้ คนธรรมดาสามัญย่อมไม่เข้าใจว่าเป็นการกล่าวพาดพิงหรือใส่ความบุคคลใด เพียงแต่โจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลที่รวมอยู่ในจำนวนคนเหล่านั้น จะว่าจำเลยใส่ความโจทก์ทั้งสองโดยตรงหาได้ไม่ โจทก์ทั้งสองจึงมิใช่เป็นผู้เสียหาย อันจะมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยหมิ่นประมาทโจทก์โดยกล่าวต่อสื่อมวลชนและบุคคลอื่นว่า “ราษฎรอำเภอบ้านกรวด อำเภอละหานทรายที่อพยพมาอยู่เขากระโดง ล้วนแต่เป็นคอมมิวนิสต์” และ “ผมว่าพวกชาวบ้านพวกนั้นเป็น ผ.ก.ค. แน่ ๆ เพราะได้ข่าวว่ามีปืนถึง 40 กระบอก และบางคนเคยมีประวัติเกี่ยวกับ ผ.ก.ค. มา” ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 พ.ศ. 2519 ข้อ 7 ข้อ 8

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาเห็นว่าถ้อยคำที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นการกล่าวถึงคนหมู่มาก ซึ่งมีจำนวนประมาณ4,000 คน คนธรรมดาสามัญย่อมไม่เข้าใจว่าเป็นการกล่าวพาดพิงหรือใส่ความบุคคลใด เพียงแต่โจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลที่รวมอยู่ในจำนวนคนเหล่านั้น จะว่าจำเลยใส่ความโจทก์ทั้งสองโดยตรงหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326อันจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหาย

พิพากษายืน

Share