แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินของกลางที่จำเลยกับพวกได้มาจากการรับจ้างขนเฮโรอีนเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิด จึงควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (2).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์อันเป็นยาเสพติดให้โทษ หนัก ๖.๗๒๖ กิโลกรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวรถยนต์บรรทุก ๑ คัน และเงินสด ๕,๗๐๐ บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งที่จำเลยทั้งสองร่วมกันได้มาจากการกระทำผิดรับจ้างขนเฮโรอีน เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๖, ๑๐๒ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๒๒ ข้อ ๑ (๑) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓, ๘๓ และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ไม่ริบธนบัตรของกลาง ๕,๗๐๐ บาท
โจทก์และจำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามีปัญหาตามฎีกาโจทก์ว่าเงินสดจำนวน ๕,๗๐๐บาทของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้มาโดยได้กระทำความผิดซึ่งควรจะริบหรือไม่ เห็นว่าเงินของกลางดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการรับจ้างขนเฮโรอีนของกลาง อันเป็นการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เงินเงินสดดังกล่าวซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิดจึงควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ (๒)
พิพากษาแก้เป็นว่าให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.