คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาศาลมีอำนาจเรียกพยานสืบเพิ่มเติมเพื่ออธิบายข้อความบางประการได้ โดยไม่ต้องมีคู่ความฝ่ายใดอ้าง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานปล้นทรัพย์จำเลยปฏิเสธศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 10 ปีตามฟ้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยคัดค้านว่า จำเลยเพิ่งเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2489 ภายหลังเกิดเหตุดังปรากฏตามใบสำคัญที่กรมตรวจคนเข้าเมืองออกให้นั้น ก็ได้ความตามหลวงอภิบาลหัวหน้าแผนกทะเบียน กรมตรวจคนเข้าเมืองว่าใบสำคัญนี้ออกให้เป็นกรณีพิเศษ ความจริงจำเลยเข้ามาอยู่ก่อนแล้วจำเลยคัดค้านว่าไม่ควรฟังคำหลวงอภิบาล เพราะไม่มีฝ่ายใดอ้างศาลชั้นต้นเรียกมาสืบเพื่อหักล้างข้อต่อสู้ของจำเลยถ่ายเดียวเป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลมีอำนาจเรียกพยานเช่นนี้มาสืบเพิ่มเติมหรืออธิบายการลงรับเข้ามาในใบสำคัญได้ โดยไม่ต้องมีฝ่ายใดอ้างดังบัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228

พิพากษายืน

Share