คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรื่องอายุความนั้นหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด เมื่อฟ้องของโจทก์ได้ระบุมาโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
แม้โจทก์จะฟ้องคดีเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำละเมิดโดยมิได้บรรยายว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเกิน 1 ปีได้ แต่โจทก์ก็ได้นำสืบให้เห็นแล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีเมื่อยังไม่พ้น1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชดใช้ค่าเสียหายจากการที่จำเลยที่ ๒ขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังชนเกาะกลางถนน ทำให้ทรัพย์สินโจทก์เสียหาย
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์มิได้เป็นเจ้าของผู้ครอบครองทรัพย์สินตามฟ้องจำเลยที่ ๒ มิได้เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๑ เหตุละเมิดเกิดจากบุคคลอื่น คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๓๐,๘๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปีโจทก์ก็จะต้องวบรรยายฟ้องให้เห็นว่า เหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเกินหนึ่งปีได้ เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้ และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒วรรค ๒ บัญญัติว่า “คำฟ้องต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น” เห็นว่า เรื่องอายุความนั้นหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่า คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด คดีนี้ฟ้องของโจทก์ได้ระบุมาโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ดังนั้น แม้โจทก์จะฟ้องคดีเมื่อเกิน ๑ ปี นับแต่วันที่จำเลยทำละเมิดโดยมิได้บรรยายว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเกิน ๑ ปีได้ แต่โจทก์ก็ได้นำสืบให้เห็นแล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีเมื่อยังไม่พ้น๑ ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความดังที่จำเลยต่อสู้
พิพากษายืน.

Share