คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินค่าแจ้งความ จำเลยเป็นข้าราชการประจำกรมการสนเทศกระทรวงเศรษฐการได้รับมอบหมายให้ไปเก็บเงินค่าแจ้งความเมื่อปรากฎว่าเงินตามต้นขั้วใบเสร็จจำนวน 9280 บาทนั้น จำเลยส่งครบแล้วและเป็นจำนวนที่ถูกต้องกับคำสงแจ้งความ แม้จะปรากฎว่าใบเสร็าจปลายขั้ว 46 ฉบับซึ่งมีจำนวนเกินกว่าต้นขั้ว 3695 บาทจำเลยหานำส่งไม่ + เงินจำนวนที่ไม่นำส่งนี้ทางกระทรวงไม่ได้เสียหายอย่างใด โดยข้อกฎหมายจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานยักยอก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับราชการเป็นเสมียนแผนกบรรณาธิการกอบข่าวสารการค้า กรมการสนเทศ กระทรวงเศรษฐการและอธิบดีกรมการสนเทศได้สั่งให้จำเลยปฏิบัติการช่วยราชการแผนกสื่อข่าวการพาณิชย์
หัวหน้าแผนกสื่อข่าวได้มอบใบเสร็จค่าลงแจ้งความในหนังสือดังกล่าวให้จำเลยมีหน้าที่เก็บเงินโดยมอบให้ไปทั้งต้นขั้วและปลายต้นขั้ว จำเลยกับพวกไปเก็บเงินได้แล้ว แต่นำส่งเพียง ๔๒๘๐ บาท อีก ๓๖๙๕ บาท จำเลยบังอาจยักยอกเอาไว้เป็นอาณาประโยชน์ตนเสียโดยเจตนาทุจริต ทั้งนี้โดยจำเลยเพทุบายลงจำนวนเงินในปลายต้นขั้วใบเสร็จรับเงินสูงกว่าจำนวนในต้นขั้ว ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๗๑๔ ๓๑๙ (๑) และคืนเงินแก่กรมการสนเทศ
จำเลยปฏิเสธและตัดฟ้องว่ากรมการสนเทศไม่ใช่ผู้เสียหาย ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลอาญาพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๑๙ ให้จำคุก ๖ เดือน แต่จำเลยได้พยายามชำระเงินให้จนครบแล้ว ลดให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๔ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเงินตามต้นขั้วใบเสร็จจำนวน ๙๒๘๐ บาทนั้น จำเลยนำส่งครบถ้วนแล้ว แต่ปรากฎว่าใบเสร็จปลายขั้ว ๔๖ ฉบับซึ่งมีจำนวนเกินกว่าต้นขั้ว ๓๖๙๕ บาท จำเลยหานำส่งไม่ ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นค่าจ้างทำบล๊อกหรือแม่พิมพ์
เงินจำนวน ๙๒๘๐ บาทตามต้นขั้วใบเสร็จที่จำเลยนำส่งปรากฎว่าถูกต้องกับคำลงแจ้งความแล้ว ทางกระทรวงไม่มีเสียหายอย่างใด โดยข้อกฎหมายจะเอาผิดแก่จำเลยในทางอาญาฐานยักยอกไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ยักยอกทรัพย์ของกระทรวงเศรษฐการ
พิพากษายืน

Share