แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โฉนดมีชื่อโจทก์ สันนิษฐานว่าโจทก์เป็นเจ้าของโจทก์อ้างว่าให้จำเลยเช่า จำเลยอ้างว่าครอบครองเป็นเจ้าของ โจทก์ออกโฉนดโดยไม่สุจริต จำเลยมีหน้าที่นำสืบจำเลยนำสืบไม่สม ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยได้ การเช่าไม่มีเอกสารเป็นหลักฐาน ไม่ห้ามฟ้องขับไล่
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนดมีชื่อวัดกลางบางซื่อ โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จำเลยปลูกบ้านเลขที่ 195 อยู่ในที่ดินพิพาท ปัญหาพิจารณามีว่า ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และโจทก์ได้ให้จำเลยเช่าดังฟ้องหรือไม่ ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้หรือไม่
พิเคราะห์แล้ว เนื่องจากโจทก์มีชื่อในโฉนดที่ดินพิพาท จึงได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เมื่อจำเลยเป็นผู้กล่าวอ้างว่า จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินแปลงพิพาท จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายดังกล่าว แต่ปรากฏว่าจำเลยคงมีจำเลยเพียงปากเดียวเบิกความประกอบข้ออ้างว่า จำเลยได้รับสิทธิครอบครองสืบเนื่องในที่ดินแปลงพิพาทต่อมาจากบิดามารดาซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่บิดามารดาจำเลยจะได้สิทธิในที่ดินพิพาทมาอย่างไร จำเลยไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดมาสนับสนุน คำเบิกความลอย ๆ ของจำเลยจึงปราศจากน้ำหนักไม่พอ ให้รับฟังหักล้างข้อสันนิษฐานที่ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดกลางบางซื้อโจทก์ผู้มีชื่อในโฉนดดังกล่าวนั้นได้ ที่จำเลยอ้างว่าวัดโจทก์มอบอำนาจให้นายแบนไปขอออกโฉนดที่พิพาทโดยไม่สุจริตนั้น จำเลยก็ไม่ได้นำสืบให้ได้ความว่าโจทก์กระทำไปโดยไม่สุจริตประการใด คดีกลับได้ความตามข้อนำสืบของโจทก์ว่า ขณะเจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดเขตที่ดินเพื่อออกโฉนดนั้น จำเลยได้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ดินด้วยและจำเลยไม่ได้คัดค้านว่าเป็นที่ดินของจำเลย ดังนี้ ข้ออ้างที่ว่าโจทก์ได้โฉนดที่พิพาทมาโดยไม่สุจริตรับฟังไม่ขึ้น ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ที่ดินโฉนดพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โจทก์ได้ให้จำเลยเช่าปลูกบ้านอยู่อาศัย โดยไม่มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ในที่พิพาทต่อไป โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทได้ ไม่ต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ส่วนในปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ เห็นว่า แม้ในใบมอบอำนาจจะไม่ได้แจ้งระบุเลขโฉนดที่ดินพิพาทตามที่จำเลยฎีกาแต่โจทก์ก็ได้ระบุเลขที่ดินของโฉนดที่ดินแปลงพิพาทไว้แล้ว แสดงว่าวัดกลางบางซื่อโจทก์ประสงค์จะให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินแปลงพิพาทไม่ใช่ที่ดินคนละแปลงดังที่จำเลยฎีกา ผู้รับมอบอำนาจจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทได้”
พิพากษายืน