คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป.ผู้ใหญ่บ้านซื้ออาวุธปืนโดยอำเภอจัดการซื้อให้และมอบปืนให้ไว้ แต่ยังมิทันได้ออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนนั้นจำเลยหยิบยืมเอาปืนนั้นไปไว้ใช้จึงถูกจับกุมดำเนินคดีฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แล้วอำเภอจึงได้ออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนแก่ ป. ก่อนศาลสั่งริบ ดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาคดีที่จำเลยถูกฟ้องนี้ ปืนนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 ศาลย่อมไม่สั่งริบปืนของกลาง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้น 1 กระบอกกับกระสุนปืน 4 นัด และปลอกกระสุน 1 ปลอกไว้ในครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ แต่ว่าปืนนี้เป็นของนายเป้ส มีใบอนุญาตให้มีและใช้โดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จำเลยหยิบยืมไปใช้เลยถูกจับ

นายเป้ส จินารักษ์ ยื่นคำร้องขอคืนปืนกับกระสุนปืนของกลางอ้างว่าเป็นของผู้ร้อง มีใบอนุญาตแล้ว ฯลฯ

ปรากฏว่าใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนออกให้หลังจากวันจำเลยกระทำผิด (ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิด 24 ตุลาคม 2505 ใบอนุญาตออกให้เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2505) ศาลชั้นต้นสอบถามนายเป้สนายเป้สแถลงว่าทางราชการอำเภอดำเนินการจัดซื้อปืนนี้ให้และได้รับปืนเมื่อปลายเดือนเมษายน 2504 เมื่อได้รับปืนแล้วได้ชำระค่าธรรมเนียม 100 บาทในการออกใบอนุญาตในวันเดียวกัน และทางอำเภอได้มอบปืนให้นายเป้สมาไว้ในครอบครอง ต่อมาผู้ร้องเคยไปติดต่อถามถึงใบอนุญาตต่อนายทะเบียนเรื่อย ๆ นายทะเบียนบอกว่าจะเอาเมื่อไรก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ออกให้ จนเกิดเหตุเรื่องนี้จึงออกใบอนุญาตให้

ศาลชั้นต้นพิพากษา (เมื่อ 6 ธันวาคม 2505) ว่าจำเลยผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ลงโทษปรับลดกึ่งแล้วเหลือ 400 บาท ส่วนอาวุธปืนนั้น เมื่อได้ความว่าใบอนุญาตให้ซื้อขาดอายุแล้ว ใบอนุญาตให้มีและใช้ก็ออกหลังจากใบอนุญาตขาดอายุ ทั้งออกให้หลังวันที่จับปืนของกลาง ถือว่าวันที่จับจำเลยได้นั้นเป็นปืนที่มีไว้เป็นความผิดอยู่นั่นเองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 จึงให้ริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้คืนปืนของกลางแก่นายเป้ส

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ในส่วนที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นเรื่องเฉพาะตัวจำเลย แต่อาวุธปืนเป็นของนายเป้สซึ่งอำเภอผู้เป็นนายทะเบียนท้องที่ได้มอบให้นายเป้สไว้ และต่อมาได้ออกใบอนุญาตให้มีและใช้ก่อนศาลสั่งริบ ดังนั้น เมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ ปืนกระบอกนี้ไม่ใช่สิ่งที่มีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ริบนั้นถูกต้องแล้ว พิพากษายืน

Share