แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กับจำเลยถูก ต. ฟ้องขอแบ่งมรดก แล้วโจทก์ทำหนังสือมอบให้จำเลยไว้ มีใจความว่า โจทก์ขอสละสิทธิรับมรดกเพราะโจทก์ไม่ต้องการไปศาลเพราะสุขภาพไม่ดีและไม่มีจิตใจเงินทองในการสู้คดีให้จำเลยออกเงินและสู้คดีไปโดยลำพัง ดังนี้ ไม่มีผลเป็นการสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612 เพราะโจทก์มิได้มอบหนังสือนั้นไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ และหนังสือนั้นเป็นหนังสือที่โจทก์แสดงเจตนาเพียงฝ่ายเดียว ไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยและนางตอง เรือนคำ เป็นบุตรของนายตุ้ยนางมาซึ่งตายไปแล้ว นายตุ้ยนางมามีทรัพย์มรดกคิดเป็นเงิน 43,000 บาท โจทก์และจำเลยเคยถูกนางตองฟ้องขอแบ่งมรดกตามสำนวนคดีดำที่ 355/2510 แล้วโจทก์จำเลยกับนางตองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ยอมแบ่งมรดกให้นางตองไป 1 ใน 5 ทรัพย์มรดกจึงเหลืออยู่คิดเป็นเงิน 34,450 บาท ซึ่งโจทก์จำเลยตกลงจะแบ่งกันคนละส่วนเท่า ๆ กัน ต่อมาจำเลยไม่ยอมแบ่งให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องขอแบ่ง
จำเลยให้การว่า เมื่อนางตองฟ้องขอแบ่งมรดกนั้น โจทก์ไม่ประสงค์จะต่อสู้คดี และไม่ประสงค์จะขอแบ่งทรัพย์มรดก จึงทำหนังสือสัญญาสละมรดก ให้จำเลยต่อสู้คดีไปโดยลำพัง ได้ทรัพย์เท่าใด โจทก์ไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย ต่อมาโจทก์ยังยอมรับว่าหนังสือสัญญาสละมรดกคือสัญญาประนีประนอมสละมรดกให้จำเลยจริง โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับมรดก
ในวันชี้สองสถาน คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นเดียวว่าเอกสารหมาย ล.1 ล.2 เป็นสัญญาประนีประนอมและสละมรดกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ 1 ใน 4 ส่วน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เอกสาร ล.2 มีข้อความว่า “โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้านางจันแก้ว แสงจันทร์ จ.ล.1 ขอสละสิทธิการรับมรดกบิดามารดาในคดีนี้ (แพ่งดำ 355/2510) และไม่ขอเกี่ยวข้องมรดกตามฟ้องนี้แต่ประการใด ทั้งนี้ เพราะข้าพเจ้านางจันแก้วไม่ต้องการไปศาลเพราะเป็นคนขี้วิงเวียน หัวใจไม่ดี และเป็นลมผิดเดือน และไม่มีจิตใจ เงินทองในการต่อสู้คดียอมให้จำเลยที่ 2, 4 ออกเงินและต่อสู้คดีไป ไม่ขอเรียกร้องทรัพย์กับจำเลยที่ 2, 4 อีกต่อไป” ต่อมาโจทก์ได้ทำคำรับรองตามเอกสาร ล.1 ต่อหน้าจำเลยกับบุคคลอื่นอีก 3 คน ว่าโจทก์ได้สมัครใจทำเอกสารหมาย ล.2 ไว้จริง
เห็นว่า เอกสาร ล.1 เป็นเพียงคำรับรองของโจทก์ว่าโจทก์สมัครใจทำเอกสาร ล.2 ไว้จริง ส่วนเอกสาร ล.2 นั้นเป็นหนังสือแสดงเจตนาสละมรดกซึ่งโจทก์ทำขึ้นแล้วมอบให้จำเลยไว้ หาได้มอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่คือนายอำเภอ ดังระบุไว้ในกฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา 1672 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2481 ข้อ 14, 15 และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 ไม่ ทั้งเป็นหนังสือที่โจทก์แสดงเจตนาฝ่ายเดียว โดยฝ่ายจำเลยมิได้เข้าเป็นคู่สัญญาตกลงด้วยในอันที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอย่างใดเลย ไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เอกสาร ล.1 ล.2 จึงไม่เป็นหนังสือสละมรดกหรือสัญญาประนีประนอมยอมความสละมรดกอันชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612 การสละมรดกของโจทก์ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย
พิพากษายืน