คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16037/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา ทำขึ้นขณะที่โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากัน ซึ่งข้อความในสัญญาเป็นการตกลงแบ่งทรัพย์สินระหว่างโจทก์กับจำเลยโดยไม่มีข้อความใดในสัญญากล่าวถึงการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลย ดังนี้ ข้อตกลงตามสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาจึงเป็นสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินโดยตรงที่โจทก์จำเลยทำไว้ต่อกันในระหว่างที่เป็นสามีภริยากัน จึงถือเป็นสัญญาระหว่างสมรส โจทก์มีสิทธิบอกล้างสัญญาดังกล่าวได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1469 อันเป็นผลให้ข้อตกลงระหว่างโจทก์ จำเลยสิ้นผลผูกพัน ผลของการบอกล้างดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์จำเลยกลับคืนสู่ฐานะเดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนกรรมสิทธิ์หุ้นบริษัทรวมทุนพัฒนา จำกัด เลขที่ 8161 ถึง 9120, 1441 ถึง 1800, 1185 ถึง 1578 รวมจำนวน 1,714 หุ้น ให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 6391 ตำบลไทรน้อย (ไทรใหญ่) อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่ดินโฉนดเลขที่ 13013 ตำบลคลองตัน (ที่ 11 พระโขนงฝั่งเหนือ)อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่ดินโฉนดเลขที่ 3209 ตำบลคลองตัน (บางกะปิฝั่งใต้) อำเภอพระโขนง (บางกะปิ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 33493 ตำบลมาบข่า อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โฉนดที่ดินเลขที่ 33482 ตำบลมาบข่า อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง และโฉนดที่ดินเลขที่ 39212 ตำบลนิคมพัฒนา กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ให้แก่โจทก์ให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สิน คือ พระกริ่งเลี่ยมทองพร้อมสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาทอาวุธปืนสั้นซิกซาวเออร์ ขนาด .38 แหวนทองคำหัวโอปอล์ และใบอนุญาตให้มีอาวุธปืน (ป.4) ของอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ให้แก่โจทก์ หากไม่สามารถส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวได้ให้ชดใช้เงินจำนวน 191,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์
จำเลยให้การขอศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง และให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมและค่าทนายความแทนจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หุ้นบริษัทรวมทุนพัฒนา จำกัด เลขที่ 8161 ถึง 9120, 1441 ถึง 1800, 1185 ถึง 1578 จำนวน 1,714 หุ้น และจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 6391 ตำบลไทรน้อย (ไทรใหญ่) อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 15,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย จดทะเบียนสมรสกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2510 และจดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียนเขตดุสิต เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2514 ระหว่างที่โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันนั้น โจทก์ทำสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาแก่จำเลยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2527 และต่อมาวันที่ 25 ตุลาคม 2549โจทก์มีหนังสือขอบอกล้างสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาดังกล่าว
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า สัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา เป็นสัญญาที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่สามีภริยาได้ทำไว้ต่อกันในระหว่างเป็นสามีภริยากัน ซึ่งโจทก์มีสิทธิบอกล้างสัญญาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1469 หรือไม่เห็นว่า สัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา ทำขึ้นขณะที่โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากัน ซึ่งข้อความในสัญญาเป็นการตกลงแบ่งทรัพย์สินระหว่างโจทก์กับจำเลยโดยไม่มีข้อความใดในสัญญากล่าวถึงการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลย ดังนี้ข้อตกลงตามสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา จึงเป็นสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินโดยตรงที่โจทก์ จำเลยทำไว้ต่อกันในระหว่างที่เป็นสามีภริยากัน ฟังได้ว่าเป็นสัญญาระหว่างสมรส โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกล้างสัญญาดังกล่าวได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1469 อันเป็นผลให้ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยสิ้นผลผูกพันคดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่า จำเลยต้องส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่โจทก์หรือไม่ เพียงใดเห็นว่า เมื่อสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา เป็นสัญญาระหว่างสมรสซึ่งโจทก์สามารถบอกล้างได้และโจทก์มีหนังสือบอกล้างสัญญาดังกล่าวถึงจำเลยแล้ว ตามสำเนาหนังสือพร้อมสำเนาใบตอบรับไปรษณีย์ ผลของการบอกล้างดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์จำเลยกลับคืนสู่ฐานะเดิม เมื่อโจทก์โอนกรรมสิทธิ์หุ้นบริษัท รวมทุนพัฒนา จำกัด เลขที่ 8161 ถึง 9120, 1441 ถึง 1800, 1185 ถึง 1578 ให้แก่จำเลย ตามสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา ข้อ 2 และที่ดินโฉนดเลขที่ 6391 ตำบลไทรน้อย (ไทรใหญ่) อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ตามสำเนาใบหุ้นและสำเนาโฉนดที่ดิน ให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยจึงต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์หุ้นบริษัท รวมทุนพัฒนา จำกัด และโฉนดที่ดินเลขที่ 6391 ดังกล่าวกลับคืนเป็นชื่อโจทก์ ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ 3209 ตำบลคลองตัน (บางกะปิฝั่งใต้) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนโอนโจทก์โอนส่วนของโจทก์ให้แก่จำเลย โจทก์ได้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับบุคคลอื่น แต่โจทก์ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ส่วนของโจทก์ให้แก่นางสาวมาธวี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2531 เมื่อไม่ปรากฏว่านางสาวมาธวีกระทำการโดยไม่สุจริตอย่างใด โจทก์จึงไม่อาจบังคับให้จำเลยส่งมอบหรือจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 3209 ให้แก่โจทก์ สำหรับที่ดินโฉนดเลขที่ 13013 ตำบลคลองตัน (ที่ 11 พระโขนงฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร ตามสำเนาโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ระบุไว้ในสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา ข้อ 5 ก็เป็นทรัพย์ที่มีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ก่อนที่จะมีการทำสัญญาดังกล่าวและข้อความตามข้อ 5 ก็ระบุว่าให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยต่อไป ดังนั้นแม้โจทก์จะบอกเลิกสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา ที่ดินโฉนดเลขที่ 13013 ดังกล่าวก็ยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย โจทก์ไม่อาจขอให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์ได้ สำหรับที่ดินโฉนดเลขที่ 33493, 33482 ตำบลมาบข่า อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โฉนดที่ดินเลขที่ 39212 ตำบลพนัสนิคม กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ตามสำเนาโฉนดที่ดิน พระกริ่งเลี่ยมทองพร้อมสร้อยคอทองคำหนักประมาณ 2 บาท อาวุธปืนสั้นซิกซาวเออร์ ขนาด .38 แหวนทองหัวโอปอล์ ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบแก่โจทก์นั้น เมื่อพิจารณาตามทางนำสืบโจทก์แล้ว ไม่ปรากฏว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่โจทก์ได้ระบุไว้ในสัญญาให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา ซึ่งโจทก์ได้บอกล้างสัญญาแล้วหรือมีเหตุอื่นใดที่จำเลยจำต้องส่งมอบคืนแก่โจทก์ ดังนั้น โจทก์จึงไม่อาจบังคับให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์ได้อีกเช่นกัน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ

Share