คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้ครอบครองหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินที่โจทก์จำเลยเป็นเจ้าของรวม โดยชอบตั้งแต่ก่อนที่โจทก์จะมีสิทธิในที่ดิน เมื่อยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิเกี่ยวกับการถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำ-ประโยชน์ให้แก่โจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับมรดกที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่๖๔๙ ตามพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองของนายพรม ทัศเศษ ผู้ตาย และเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมจำเลยเป็นผู้ครอบครองหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ขอให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์แก่โจทก์ และให้จำเลยไปจดทะเบียนนิติกรรมขออาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าวจากโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายพรม ที่ดินตามมฟ้องเป็นสินสมรส จำเลยมีสิทธิครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งในฐานะทายาทโดยธรรม พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า พินัยกรรมสมบูรณ์ และที่ดินพิพาทเป็นของผู้ตายครึ่งหนึ่งตกได้แก่โจทก์ ให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ ๖๔๙ เล่ม ๗ ก. หน้า ๔๙แผ่นที่ ๑๖๕ ตำบลเขางั่ว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ แก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่โจทก์ฎีกาให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามคำฟ้องให้แก่โจทก์นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินตามฟ้องแก่โจทก์ โดยอ้างว่าโจทก์มีสิทธิในที่ดินลำพังผู้เดียว จำเลยไม่มีสิทธิในที่ดิน โจทก์ไม่ได้ฟ้องในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกที่จำเป็นต้องมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการมรดก เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่าโจทก์และจำเลยต่างมีสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าวในฐานะเป็นเจ้าของรวมด้วยกัน จำเลยได้ถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินนี้ไว้โดยอาศัยสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของรวมมาตั้งแต่แรกการที่โจทก์เพิ่งได้รับสิทธิเป็นเจ้าของรวมในที่ดินนั้นภายหลังตามพินัยกรรม ยังไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิเกี่ยวกับการถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงยังไม่มีสิทธิขอให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นได้
พิพากษายืน.

Share