แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1627 นั้น มีสิทธิเพียงที่จะได้รับมฤดกในฐานเป็นผู้สืบสันดานตาม มาตรา 1629(1) เท่านั้น
สิทธิที่บุตรจะได้รับจากบิดาในกรณีที่บุตรต้องขาดอุปการะ เพราะมีผู้ทำให้บิดาตนถึงแก่ความตายนั้น จะต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายมาแต่แรก มิฉะนั้นก็ต้องเข้าในบทบัญญัติแห่งมาตรา 1526 คือ ต่อมาบิดามารดาได้สมรสกัน หรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร
มาตรา 1524 เป็นเรื่องพิศูจน์ว่าเป็นบุตรในกรณีที่บิดาได้สมรสกันโดยถูกต้องแล้ว เป็นคนละเรื่องกับมาตรา 1627 บุตรที่บิดารับรองโดยทะเบียนคนเกิดและโดยเปิดเผยย่อมสมบูรณ์ตามมาตรา 1627 มีสิทธิในฐานะผู้สืบสันดาน ย่อมฟ้องเรียกค่าทำศพบิดาจากผู้ที่ทำให้บิดาตนถึงแก่ความตายได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรนายลิบนายกิ่งสามีจำเลยได้ใช้ปืนยิงนายลิบตายแล้ว นายกิ่งได้ผูกคอตายในระหว่างคุมขัง โจทก์ขาดอุปการะเลี้ยงดูจากบิดา ทั้งศพนายลิบยังมิได้เผา จำเลยเป็นผู้รับมฤดกของนายกิ่ง จึงขอให้เอาทรัพย์มฤดกของนายกิ่งมาชดใช้ค่าปลงศพนายลิบ ๒,๐๐๐ บาท ค่าที่โจทก์ขาดอุปการะไปจนกว่าจะหากินได้ด้วยตนเองอีก ๔,๐๐๐ บาท จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายลิบ ไม่มีอำนาจฟ้อง และนายกิ่งไม่ได้ยิงนายลิบ ศาลชั้นต้นฟังว่า นายกิ่งได้ใช้ปืนยิงนายลิบตายจริง นายกิ่งต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิด และปรากฎว่านายลิบได้ไปแจ้งทะเบียนเมื่อโจทก์เกิดไว้ว่าโจทก์เป็นบุตร และนายลิบได้เลี้ยงดูโจทก์มาอย่างบุตรโดยเปิดเผย กระทั่งนายลิบตาย โจทก์ย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้ พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทำศพ ๑,๐๐๐ บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูอีก ๓๖๐๐ บาท ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในการขาดอุปการะของนายลิบ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในคำขอในข้อที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นเสีย นอกนั้นยืน
โจทก์, จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองตามมาตรา ๑๖๒๗ นั้น มีสิทธิเพียงที่จะได้รับมฤดกในฐานเป็นผู้สืบสันดานตามมาตรา ๑๖๒๙(๑) เท่านั้น ส่วนอิทธิอย่างอื่นที่บุตรจะพึงได้รับจากบิดา เช่นสิทธิจะได้รับความอุปการะเลี้ยงดูอย่างในคดีนี้ จะต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายมาแต่แรก หรือมิฉะนั้นก็ต้องเข้าในบทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๕๒๖ คือต่อมาบิดามารดาได้สมรสกัน หรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร และในคดีนี้ โจทก์หาได้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๑๕๒๖ ไม่ และเห็นว่าการพิศูจน์ว่า เป็นบุตรตามมาตรา ๑๕๒๔ เป็นเรื่องพิสูจน์ในกรณีที่บิดามารดาได้สมรสกันโดยถูกต้องแล้ว แต่สำหรับกรณีที่บิดารับรองบุตรตามมาตรา ๑๖๒๗ นี้หาใช่การรับรองที่ต้องมีพิธีดังบัญญัติไว้ตามมาตรา ๑๕๒๔ ไม่ เป็นคนละเรื่องกัน การรับรองโดยทะเบียนคนเกิดและโดยเปิดเผยอย่างพฤตติการณ์ในคดีนี้ ย่อมสมบูรณ์ตามมาตรา ๑๖๒๗ จึงมีสิทธิในฐานผู้สืบสันดานย่อมฟ้องเรียกค่าทำศพจากจำเลยได้
พิพากษายืน