แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯ มาตรา 21 และ 22 กำหนดให้ผู้ที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งและผู้ที่ไม่ใช้สิทธิเลือกตั้งแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งไว้ประจำเขตเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานีประกาศให้ผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านเฉพาะในเขตเทศบาลนครอุดรธานีแจ้งเหตุต่อบุคคลรับแจ้งเหตุลำดับที่ 55 ถึง 61 ณ สถานที่รับแจ้งเหตุ สำนักทะเบียนท้องถิ่น เทศบาลนครอุดรธานี การที่ผู้ร้องซึ่งมีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลนครอุดรธานีได้มอบอำนาจให้ผู้มีชื่อไปแจ้งเหตุต่อ ล. บุคคลผู้รับแจ้งเหตุลำดับที่ 4 ที่สำนักงานทะเบียนอำเภอเมืองอุดรธานี ซึ่งมีหน้าที่รับแจ้งเหตุเฉพาะนอกเขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่ไม่มีหน้าที่รับแจ้งเหตุของผู้มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงถือไม่ได้ว่าการแจ้งเหตุของผู้ร้องดังกล่าวเป็นการแจ้งเหตุตามมาตรา 21 และมาตรา 22 การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งหลังสุดและไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลผู้มีอำนาจและหน้าที่รับแจ้งเหตุในเขตเทศบาลนครอุดรธานีตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี ผู้ร้องย่อมเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 68 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯ มาตรา 23
(คำสั่งศาลฎีกา)
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย และได้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานี แต่ไม่มีชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในประกาศของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งดังกล่าว ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานี รับสมัครผู้ร้องและประกาศให้ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 และไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานีผู้ร้องจึงเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงตามที่คู่ความแถลงรับกัน ได้ความว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตจังหวัดอุดรธานี ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 ผู้ร้องไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันดังกล่าว แต่ได้มอบอำนาจให้ผู้มีชื่อไปแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันดังกล่าวต่อนางลดารัตน์ สิริประเสริฐศิลป์ ปลัดอำเภอ นายทะเบียนอำเภอเมืองอุดรธานี มีปัญหาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 68 วรรคหนึ่งและวรรคสอง บัญญัติว่าบุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง บุคคลซึ่งไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปเลือกตั้งได้ย่อมเสียสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง (3) บัญญัติว่า ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุการณ์ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 21 หรือมาตรา 22 หรือแจ้งเหตุแล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควร ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นบุคคลซึ่งไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามมาตรา 68 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ ให้ผู้นั้นเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยมาตรา 21 และมาตรา 22 กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งและผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งไว้ประจำแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี เรื่อง แต่งตั้งบุคคลรับแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กำหนดให้ผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านเฉพาะในเขตเทศบาลนครอุดรธานีแจ้งเหตุต่อบุคคลรับแจ้งเหตุตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี ลำดับที่ 55 ถึง 61 ณ สถานที่รับแจ้งเหตุ สำนักทะเบียนท้องถิ่น เทศบาลนครอุดรธานี ดังนั้น จึงชอบที่ผู้ร้องซึ่งมีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลนครอุดรธานีจะต้องแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลรับแจ้งเหตุ ลำดับที่ 55 ถึง 61 ตามประกาศดังกล่าว การที่ผู้ร้องมอบอำนาจให้ผู้มีชื่อไปแจ้งเหตุต่อนางลดารัตน์ สิริประเสริฐศิลป์ บุคคลรับแจ้งเหตุลำดับที่ 4 ตามประกาศดังกล่าว ที่สำนักทะเบียนอำเภอเมืองอุดรธานี ซึ่งมีหน้าที่รับแจ้งเหตุเฉพาะนอกเขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่ไม่มีหน้าที่รับแจ้งเหตุของผู้มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลนครอุดรธานีเช่นผู้ร้องคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าการแจ้งเหตุของผู้ร้องดังกล่าวเป็นการแจ้งเหตุตามมาตรา 21 และมาตรา 22 ฉะนั้น การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งหลังสุดและไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลผู้มีอำนาจและหน้าที่รับแจ้งเหตุในเขตเทศบาลนครอุดรธานีตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานีดังกล่าว ผู้ร้องย่อมเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง