แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ระงับในการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะนำพื้นที่จอดรถในชั้นที่ 1 ซึ่งผู้ร้องเช่าจากลูกหนี้มีกำหนด 20 ปี ไปให้ผู้อื่นเช่า และหากมีการทำสัญญาเช่าไปแล้ว ขอให้เพิกถอนสัญญาเช่า แต่ตามคำร้องของผู้ร้องปรากฏเพียงว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการนำพื้นที่ลานจอดรถชั้นที่ 1 ของอาคารซึ่งเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ออกให้บุคคลภายนอกเช่าเพื่อหาผลประโยชน์เข้ากองทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้น แต่ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้ดำเนินการอย่างใดตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ และยังไม่มีการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องแต่ประการใด ดังนี้ เมื่อผู้ร้องยังไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามคำร้องตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 146 ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้(จำเลย) ไว้เด็ดขาด เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๘ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ระงับในการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะนำพื้นที่จอดรถในชั้นที่ ๑ ของอาคารอาณารักษ์เลขที่ ๑๕/๑๐ ซอยพิพัฒน์ ถนนสีลม แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ร้องเช่าจากลูกหนี้มีกำหนด ๒๐ ปี นับแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๔ถึงวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ไปให้นางพินรี สัณฑ์พิทักษ์ หรือผู้อื่นเช่า และหากมีการทำสัญญาเช่าไปแล้ว ขอให้เพิกถอนสัญญาเช่า
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โดยเห็นว่า ไม่ปรากฏว่าความเสียหายของผู้ร้องเกิดจากการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คำร้องของผู้ร้องจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔๖
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำร้องของผู้ร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้เช่าอาคารอาณารักษ์ ชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๕ เลขที่๑๕/๑๐ ซอยพิพัฒน์ ถนนสีลม แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จากลูกหนี้มีกำหนดระยะเวลาเช่าจนถึงวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๐และวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๑ ผู้ร้องทราบจากรายงานการประชุมเจ้าหนี้ครั้งที่ ๖และครั้งที่ ๗ ว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการให้บุคคลภายนอกเข้าทำสัญญาเช่าลานจอดรถของอาคารอาณารักษ์ที่ผู้ร้องเช่าอยู่เพื่อเก็บผลประโยชน์เข้ากองทรัพย์สินของลูกหนี้โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องและผู้เช่าช่วงรายอื่น ๆ
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องจะขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำลานจอดรถดังกล่าวไปให้บุคคลภายนอกเช่าได้หรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔๖ บัญญัติให้สิทธิบุคคลผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งยืนตามกลับหรือแก้ไขหรือสั่งประการใดตามที่ศาลเห็นสมควรได้ แต่ตามคำร้องของผู้ร้องดังกล่าว ปรากฏเพียงว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้ทั้งสองครั้งมีมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการนำพื้นที่ลานจอดรถชั้นที่ ๑ของอาคารซึ่งเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ออกให้บุคคลภายนอกเช่าเพื่อหาผลประโยชน์เข้ากองทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้น ขณะผู้ร้องยื่นคำร้อง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้ดำเนินการอย่างใดตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ และยังไม่มีการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องแต่ประการใด ดังนั้นผู้ร้องจึงยังไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามคำร้องตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.๒๔๘๓ มาตรา๑๔๖ ได้
พิพากษายืน.