แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชายหญิงทำพิธีสมรสกันตามประเพณีแล้ว แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ยอมจดทะเบียนสมรสทำให้การสมรสไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายดังนี้ ชายย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกของหมั้นคืนจากหญิงได้ ส่วนค่าทดแทนเช่นค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีนั้น แม้การสมรสจะมิได้สำเร็จไปโดยชอบ แต่เมื่อชายได้หลับนอนกับหญิงตามประเพณีแล้ว ค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีจึงไม่ใช่ค่าเสียหายอันควรคิดเอาแก่กัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑-๒ เป็นบิดามารดาจำเลยที่ ๓ จำเลยตกลงรับเงิน ๑,๐๐๐๐ บาทจากโจทก์เป็นของหมั้นจำเลยที่ ๓ และตกลงให้จำเลยที่ ๓ สมรสกับโจทก์ ครั้นโจทก์และจำเลยที่ ๓ ทำพิธีสมรสกันแล้วจำเลยที่ ๑-๒ ได้ขัดขวาง และจำเลยที่ ๓ ได้ยินยอมกับจำเลยที่ ๑-๒ ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ ทั้งไม่ยอมส่งตัวจำเลยที่ ๓ ไปอยู่กินกับโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ต้องใช้จ่ายในการจัดการหมั้นและทำพิธีสมรสกับจำเลยที่ ๓ เป็นเงิน ๑๐๘๙๕ และทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย และเรียกเงินหมั้นคืน
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่จดทะเบียนสมรสเองต่างหาก ฝ่ายจำเลยมิได้ผิดสัญญา จึงฟ้องแย้งขอให้ศาลสั่งว่าเงินหมั้น เป็นสิทธิแก่จำเลยที่ ๓ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงพิพากษาให้จำเลยที่ ๑-๒ คืนเงินหมั้น พร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่โจทก์ ส่วนค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายของโจทก์และของจำเลยให้ยกเสีย
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยที่ ๑-๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ฝ่ายจำเลยเป็นฝ่ายไม่ยอมจดทะเบียนสมรส จำเลยจึงเป็นฝ่ายที่ไม่ยอมให้การสมรสได้สมบูรณ์ตามกฎหมายจำเลยจึงต้องคืนเงินที่รับไว้จากโจทก์ ให้แก่โจทก์ไป ส่วนที่โจทก์ขอค่าทดแทนนั้น เห็นว่า แม้การสมรสจะมิได้สำเร็จไปโดยชอบ แต่ก็น่าเชื่อว่าโจทก์คงได้หลับนอนร่วมกันจำเลยที่ ๓ ตามประเพณีแล้ว ค่าใช้จ่ายที่ต้องทำตามประเพณีนั้น จึงไม่ใช่ค่าเสียหาย อันควรคิดเอาแก่กัน จึงพิพากษายืน