คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสร้างรั้วรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนด เลขที่ 19168 เลขที่ดิน 5109 ของโจทก์ ดังนั้นการที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยปลูกสร้างรั้วรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 19226 เลขที่ดิน 5167 ของโจทก์ จึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากคำฟ้อง ซึ่งไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 19168 เลขที่ดิน 5109 ตำบลทุ่งมหาเมฆ อำเภอยานนาวากรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 30 ตารางวา จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารตึกแถวเลขที่ 471-473 ถนนทนุรัตน์แขวงทุ่งวัดดอน เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร อาคารตึกแถวดังกล่าวของจำเลยส่วนด้านหลังปลูกสร้างติดแนวเขตที่ดินทางทิศใต้ของที่ดินโจทก์ จำเลยโดยเจตนาไม่สุจริตจงใจปลูกสร้างรั้วก่อด้วยอิฐฉาบปูนรุกล้ำเข้ามาทางที่ดินด้านทิศใต้ของที่ดินโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยรื้อถอนรั้วก่อด้วยอิฐฉาบปูนและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆดังกล่าวซึ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์โฉนดเลขที่ 19168ออกไปให้หมดสิ้นหากจำเลยเพิกเฉย ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลยโดยการให้สิทธิและอำนาจแก่โจทก์เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกไปจากที่ดินของโจทก์โดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การว่า โจทก์จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณด้านหลังอาคารของจำเลยหรือไม่ จำเลยไม่ทราบจำเลยสร้างรั้วกั้นล้อมบริเวณด้านหลังอาคารตามแนวบริเวณที่มีอยู่เดิม หากโจทก์จะอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยก็ต่อสู้ว่าจำเลยและครอบครัวได้เข้าครอบครองบริเวณดังกล่าวตั้งแต่ปี 2518 โดยความสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเกินกว่า 10 ปีแล้ว ไม่มีบุคคลใดมาโต้แย้งจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาตามข้อฎีกาของโจทก์ ประการแรกมีว่า จำเลยรุกล้ำที่ดินตามฟ้องของโจทก์หรือไม่ ตามรูปแผนที่ในสำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดินเลขที่ 19168 เลขที่ดิน 5109 เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 หรือสำเนาโฉนดที่ดินเลขที่ 19168 เลขที่ดิน 5109เอกสารหมาย จ.13 ของโจทก์ที่อ้างว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารตึกแถวเลขที่ 471-473 ที่ปลูกอยู่ในที่ดินที่จดแนวเขตทางทิศใต้ของที่ดินโจทก์ดังกล่าวนั้นปรากฎว่า ทิศใต้ของที่ดินโจทก์ดังกล่าวจดกับที่ดินเลขที่ดิน 5167 และตามสำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดินเลขที่ 19189 เลขที่ดิน 5130 เอกสารหมายล.2 ของจำเลย กับตามสำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดินเลขที่ 19190เลขที่ 5131 เอกสารหมาย ล.3 ของจำเลยซึ่งซื้อมาจากบริษัทกุลเศรษฐศิริ จำกัด พร้อมตึกแถวเลขที่ 471-473 ซึ่งปลูกในที่ดินดังกล่าว ก็ได้ระบุว่าทิศเหนือของที่ดินจดที่ดินเลขที่ดิน 5131, 5167 และที่ดินเลขที่ดิน 5132, 5167 ตามลำดับหาได้จดที่ดินโฉนดเลขที่ 19168 เลขที่ดิน 5109 ของโจทก์ตามฟ้องไม่ ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยปลูกสร้างรั้วก่ออิฐถือปูนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินตามฟ้องของโจทก์ ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยปลูกสร้างรั้วรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 19226 เลขที่ดิน 5167 ตามสำเนาโฉนดที่ดินและรูปจำลองแผนที่เอกสารหมาย จ.3 และ จ.4 ของโจทก์นั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากคำฟ้องซึ่งไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ปลูกสร้างรั้วรุกล้ำเข้าไปในที่ดินตามฟ้องของโจทก์เสียแล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์”
พิพากษายืน

Share