คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1580/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าซื้อมีข้อความว่า ในกรณีทรัพย์สินที่เช่าซื้อเกิดสูญหายหรือเสียหายผู้เช่าซื้อยอมใช้ราคาทรัพย์สินให้แก่เจ้าของ โดยจะไม่ยกเหตุสุดวิสัย อัคคีภัย โจรกรรมมาเป็นเหตุลบล้างความรับผิดชอบ ดังนี้ เมื่อทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกไฟไหม้เสียหายโดยมิใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อก็จะต้องใช้ราคาทรัพย์สินนั้นให้แก่เจ้าของ แม้สัญญาเช่าซื้อจะระงับเพราะวัตถุแห่งสัญญาสูญหายหรือถูกทำลายความรับผิดของผู้เช่าซื้อก็ยังมีอยู่ตามข้อสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เช่าซื้อตู้เย็นน้ำมันก๊าสไปจากโจทก์ 1 ตู้ ราคา 19,260 บาท โดยจำเลยที่ 2, 3 เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาเกิดอัคคีภัยไหม้ร้านของจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้ตู้เย็นเสียหายหมดสิ้น ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ใช้ราคาทรัพย์หากไม่สามารถชำระ ให้จำเลยที่ 2, 3 ชำระ

จำเลยที่ 1, 2 ต่อสู้ว่า บ้านเรือนของจำเลยที่ 1 ถูกไฟไหม้มิใช่การกระทำของจำเลย ตู้เย็นหนักขนไม่ทันจึงถูกไฟไหม้ สัญญาเช่าซื้อท้ายฟ้องขัดต่อความสงบเป็นโมฆะ จำเลยได้บอกเลิกสัญญาแล้ว

สำหรับจำเลยที่ 3 ส่งหมายเรียกไม่ได้ โจทก์ขอถอนฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงิน 16,430 บาทแก่โจทก์โดยหักค่าเช่าซื้อที่ชำระแล้ว 2,830 บาท ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระให้จำเลยที่ 2 ชำระแทน

จำเลยที่ 1, 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1, 2 ฎีกา

ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเช่าซื้อในวันทำสัญญา 2,300 บาท และสัญญาจะชำระเป็นรายเดือน ๆ ละ 530 บาทจนกว่าจะครบถ้วน จำเลยที่ 2 ที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ได้เอาตู้เย็นที่เช่าซื้อไปตั้งไว้ที่บ้านของจำเลยที่ 1 ซึ่งทำเป็นโรงแรม ต่อมาไฟไหม้โรงแรมของจำเลยที่ 1 ตู้เย็นได้รับความเสียหายหมดสิ้น มีปัญหาว่าจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชดใช้ราคาตู้เย็นให้โจทก์อีกหรือไม่

สัญญาเช่าซื้อข้อ 7 มีความว่า “ในกรณีที่ทรัพย์สินที่กล่าวเกิดสูญหายหรือเสียหายจนไม่อาจแก้ไขซ่อมแซมให้คืนดีได้ ผู้เช่าสัญญาจะใช้ราคาทรัพย์สินที่เช่าให้แก่เจ้าของ โดยเจ้าของยอมให้หักจำนวนเงินค่าเช่าที่ผู้เช่าได้ชำระไว้แล้วได้ และผู้เช่าสัญญาจะไม่ยกเหตุสุดวิสัย อัคคีภัย โจรกรรม ขึ้นมาเป็นเหตุลบล้างความรับผิดชอบตามข้อสัญญานี้”

จำเลยฎีกาว่า ตู้เย็นถูกไฟไหม้เพราะเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 เมื่อวัตถุแห่งสัญญาสูญหายหรือถูกทำลายลงเช่นนี้ สัญญาเช่าย่อมระงับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567ประกอบด้วยมาตรา 572 สัญญาเช่าซื้อข้อ 7 จึงไม่มีผลบังคับแต่อย่างใด

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้สัญญาเช่าซื้อจะระงับไปก็ตาม แต่ความรับผิดของจำเลยก็ยังมีอยู่ตามข้อสัญญา จำเลยจะปฏิเสธหาได้ไม่และในชั้นฎีกานี้ จำเลยก็มิได้ยกข้อต่อสู้ที่ว่า สัญญาเช่าซื้อ ข้อ 7 ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ดังที่ได้ยกขึ้นในชั้นศาลอุทธรณ์ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยในปัญหาข้อนี้

พิพากษายืน

Share